เมื่อแมวฉันป่วยจนต้องให้น้ำเกลือเอง

 

            ยามเมื่อคราแมวป่วย ทาสอย่างเราย่อมมีความรู้สึกทุกข์ใจ แม้จะเลี้ยงแบบยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ก็ย่อมป่วยได้

เนื่องจากขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแมว แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเจ้าเหมียวป่วยหนักถึงขั้นต้องได้น้ำเกลือ!!

                  วันนี้ Dinocat จะมาแชร์ประสบการณ์เป็นหมอจำเป็นให้กับเจ้าเหมียวกลอยใจ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้เปิดประสบการณ์ให้น้ำเกลือแมวเองที่บ้าน

 

              อยู่ ๆ เจ้าเหมียวลูกรักก็มีอาการซึม ไม่กินอาหารหลายวัน พฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ยอมมาเล่นด้วย

ไอ้เราคนเป็นแม่ก็ย่อมมีความทุกข์ใจ รีบนำลูกไปถึงมือคุณหมอด่วน

              คุณหมอชั่งน้ำหนักไอ้อ้วน พบว่าจาก 5.7 kg เหลือเพียง 5.1 kg! เหลือเพียงอารยธรรมซากไขมันย้วยตามตัว

จากนั้นได้เจาะเลือด และให้น้ำเกลือไอ้อ้วนด่วนจี๋เพราะมีอาการขาดน้ำรุนแรงค่ะ

 

              คุณหมอบอกว่าค่าเลือดของไอ้อ้วนมีค่าของเสียในเลือดสูงกว่าปกติ (Creatinine rising)

สาเหตุตอนนี้มาจากไข้สูง และน้องเบื่ออาหาร ไม่กินน้ำเลย

จำเป็นต้องให้น้ำเกลือขั้นต่ำ 7 วัน แล้วตามค่าเลือด

แต่ Dinocat ไม่สะดวกพาน้องเหมียวไปคลินิกทุกวัน ทำไงดีล่ะ (T_T)

คุณหมอจึงให้แนวทางว่า ถ้าอย่างนั้นก็ให้เองที่บ้านไปเลยสิ!

ปวดหัวเลย เราเคยแต่ให้น้ำเกลือคนไข้ไม่เคยให้แมวมาก่อน ทำไง?

              โดยปกติการให้น้ำเกลือน้องหมาและน้องแมวมี 2 วิธี คือ ทางหลอดเลือดและทางชั้นใต้ผิวหนังค่ะ

              1.ทางหลอดเลือด (Veins): 

ข้อดีคือสามารถให้น้ำเกลือได้เร็วทันใจในสัตว์ที่มีอาการขาดน้ำรุนแรง 

ข้อเสียต้องเป็นคุณหมอให้เท่านั้น เนื่องจากต้องใช้ความชำนาญทางวิชาชีพ

 

บางครั้งคุณหมอจะให้เข็มคาไว้ที่หลอดเลือดและพันผ้ารอบเข็มไว้กันสัตว์กัดเข็มออกค่ะ

ทำให้เข็มที่คาไว้มีโอกาสทำให้เส้นอักเสบจนเกิดการติดเชื้อได้ (Inflammation of Veins in Cats)

 

              2.ทางชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous):

ข้อดีคือคนทั่วไปสามารถเรียนรู้และให้ได้เลย แต่ปริมาณน้ำเกลือที่ให้ต้องเป็นตามที่คุณหมอกำหนดตามน้ำหนักตัวนะคะ

ข้อเสียคือชั้นใต้ผิวหนังดูดซึมน้ำเกลือได้ช้า จึงไม่เหมาะกับภาวะที่ต้องการให้อย่างรวดเร็ว และต้องแทงเข็มเป็นครั้ง ๆ ไป

 

              แน่นอนค่ะ Dinocat ได้ให้ทางชั้นใต้ผิวหนังประหยัดกว่าด้วยค่ะ เพราะซื้อแค่น้ำเกลือ 1 ขวด เข็ม และ set น้ำเกลือ ประมาณ 300 บาท

แต่หากไปคลินิกเพื่อให้หมอให้ต้องเสียค่าหัตถการเพิ่มวันละ 200 บาท รวมถึงค่าเดินทาง (บางที่ราคาอาจสูงกว่านี้ แล้วแต่ค่าครองชีพค่ะ)

คุณหมอแนะนำให้ใช้เข็มใหญ่แทง เนื่องจากต้องให้เป็นเวลานานและแมวไม่ค่อยอยู่นิ่ง จึงจำเป็นต้องให้อย่างรวดเร็วผ่านทางเข็มใหญ่

ยิ่งเข็มเบอร์ใหญ่ ตัวเลขเข็มยิ่งเล็ก เปรียบเทียบให้เห็นระหว่างเข็มเบอร์ 20 และเบอร์ 24

และใช่แล้ว คุณหมอแนะนำเข็มเบอร์ 20

อย่าจำสีนะคะ เพราะขึ้นอยู่ว่าเป็นยี่ห้อทางการค้าอะไรค่ะ

 

             หลักการการให้น้ำยาทางใต้ผิวหนัง คุณหมอส่วนมากแนะนำให้บริเวณหลังคอ

                 โดยการหยิบหนังหลังคอขึ้นมา ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ แล้วให้เราแทงเข็มตรงบริเวณสามเหลี่ยม

ไม่ต้องลึกมาก พอให้เข็มปักเข้าไปอย่างมั่นคงค่ะ

ถ้าลึกเกินไปจะเข้าไปชั้นใต้ผิวหนัง (น้องจะเจ็บและอาจมีเลือดออกเพราะโดนหลอดเลือด)

เมื่อยึดตรึงเข็มได้มั่นคงแล้ว (Fix) ให้ติดพลาสเตอร์แปะเข็มให้ยึดกับที่ชั่วคราว  จากนั้นปล่อยหนังคอ

 

 

ความเป็นจริงสามารถแทงตรงบริเวณไหนก็ได้ที่เป็นชั้นใต้ผิวหนัง

แต่น้องเหมียวไม่อยู่นิ่งค่ะ ถ้าเป็นบริเวณหลังคอจะทำให้เรายึดตำแหน่งเข็มไว้ไม่ให้เลื่อนหลุด และป้องกันเหมียวหันคอมากัดเข็มออก

 

             จะทำยังไงดีล่ะให้แมวอยู่นิ่ง เพราะเราทำคนเดียว (T^T)?????

Dinocat ได้ศึกษาวิธีเพิ่มเติมจาก Youtube เห็นมีการประยุกต์ให้แมวอยู่ในกล่องลักษณะแคบ ๆ เราเลยประยุกต์ใช้กระเป๋าแมวพอดีตัวป้องกันแมวหันตัวมากัดเข็มออก

 

ถ้าน้องแมวมีความดุ ขู่เจ้าของ ข่วน อาจใช้ผ้ารัดตรึงโผล่ให้เห็นเฉพาะบริเวณหลังคอที่จะแทงก็พอนะคะ

 

             แต่ละวัน Dinocat ต้องให้น้ำเกลือเวลาใกล้เคียงเดิม ๆ วันละ 1 ครั้ง บางวันก็แทงหลายรอบจนท้อ สงสารลูก

คุณหมอบอกว่าวันไหนที่เครียดทั้งแมวและคนให้เลื่อนไปก่อนก็ได้ค่ะ แต่เมื่อให้ครบโดยรวม 7 รอบ ให้นำแมวมาเจาะเลือด

 

             โชคดีมากเลยค่ะที่แมวเหมียวอาการดีขึ้น ค่าไตลดลงจาก 1.8 เหลือเพียง 1.2

พ้นวิกฤตอันตราย แต่ยังต้องเฝ้าระวัง พยายามกระตุ้นให้มีการกินน้ำมาก ๆ ค่ะ

วิธีการกระตุ้นให้แมวกินน้ำเยอะ ๆ เช่น ผสมในอาหารเปียกหรือใช้น้ำพุแมวค่ะ

 

             ผู้ที่อ่านถึงตรงนี้ Dinocat ขอย้ำว่าถึงจะเป็นการให้น้ำเกลือเองทางชั้นใต้ผิวหนัง แต่ควรอยู่ภายใต้การกำกับของคุณหมอด้วยนะคะ

คุณหมอจะคำนวณปริมาณการให้ต่อวัน ขึ้นอยู่กับน้ำหนักแมวแต่ละตัวด้วยค่ะ

หากให้มากเกินไปอาจทำให้น้ำเกินในร่างกาย ให้ไม่เพียงพอก็ไม่หายสักที

อาจแทงเข็มไม่ถูกต้องตามหลักหรือไม่เหมาะสมจนพลาดอาจไปโดนจุดสำคัญ (ซึ่งหากแทงตรงหลังคอที่แนะนำจากคุณหมอ โอกาสเกิดน้อย)

อยากให้มือใหม่เทรนคร่าว ๆ ก่อนเพื่อความมั่นใจกับคุณหมอค่ะ

 

             ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยนะคะ สำหรับแมวที่ค่าไตขึ้นชั่วคราว ขอให้แมวหายป่วยไว ๆ เจ็บแป๊บเดียวเดี๋ยวกินข้าวได้ค่ะ ไม่นานน้องต้องกลับมาร่าเริงแจ่มใสแน่นอนค่ะ