เคยสงสัยมั้ยคะว่าสัตว์เคี้ยวเอี้ยงทั้งหลาย เช่น วัว ควาย แพะ แกะ กวาง เวลากินหญ้า ทำไมต้องสำรอกอาหารนั้นออกมาเคี้ยวอีกครั้ง ทำไมน้องไม่เคี้ยวให้ละเอียดแล้วกลืนลงไปทีเดียว วันนี้มีคำตอบค่ะ
คำว่า "สัตว์เคี้ยวเอื้อง มาจากภาษาละตินว่า ruminare หมายถึง "ไตร่ตรองถี่ถ้วนอีกครั้ง" (to chew over again)โดยระบบย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยงเอื้อง จะมีสัตว์ที่มีกระเพาะอาร 4 กระเพาะ ได้แก่ รูเมน เรติคูลัม โอมาซัม และอะโบมาซัม ซึ่งกระเพาะอาหารแต่ละส่วนก็จะทำหน้าที่แตกต่างกันไป
1. รูเมน ( Rumen ) เป็นกระเพาะที่หนึ่ง หรือชื่อที่เรารู้จักก็คือ กระเพาะผ้าขี้ริ้ว ที่หลายคนชอบนั่นแหละค่ะ กระเพาะส่วนนี้จะมีขนาดใหญ่ อยู่ทางด้านซ้ายของช่องท้อง หญ้าที่สัตว์เคี้ยวเอื้องกินจะเข้ามาในนี้ก่อน โดยในกระเพาะส่วนนี้จะไม่มีเอนไซม์มาช่วยย่อย แต่จะมีจุลินทรีย์หลายชนิดมาช่วยย่อยอาหารเบื้องต้น และพักไว้เพื่อส่งต่อไปกระเพาะที่สอง
2. เรติคิวลัม (Reticulum) เป็นกระเพาะที่สอง ส่วนนี้จะทำหน้าที่สำรอกหญ้าที่จุลินทรีย์ช่วยย่อยมาแล้วในเบื้องต้นจากกระเพาะอกหารส่วนแรกออกมาสู่ปาก เพื่อเอากลับเคี้ยวอีกครั้งหนึ่ง นี่คือที่มาของคำว่าเรียกว่าการเคี้ยวเอื้องนั่นเอง จากนั้นหญ้าหรืออาหารที่ถูกเคี้ยวนี้จะถูกลำเลียงไปยังกระเพาะส่วนที่ 3 ต่อไป
3. โอมาซัม (Omasum) หรือเรียกว่า กระเพาะสามสิบกลีบ ภายในมีลักษณะเป็นแผ่นซ้อนกัน กระเพาะอาหารส่วนนี้จะบีบตัวเพื่อบดและผสมอาหารให้เข้ากัน จากนั้นจะบีบน้ำออกและนำอาหารส่วนที่ได้ส่งต่อกระเพาะที่ 4
4. อะโบมาซัม ( Abomasum ) กระเพาะส่วนนี้คือกระเพาะแท้ของสัตว์เคี้ยงเอื้ยง เหมือนคนและสัตว์ทั่วไปเลยค่ะอาหารที่ส่งมาจากกระเพาะส่วนที่สามจะถูก ก็จะถูกเอนไซม์หลายชนิดในกระเพาะแท้ย่อยต่อ และได้น้ำย่อยจากลำไส้เล็กที่อยู่ติดกันมาช่วยย่อยด้วย และแน่นอนว่า อาหารที่ย่อยแล้วเสร็จ ก็จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดในบริเวณลำไส้เล็กเหมือนสัตว์อื่นๆ เป็นอันจบสิ้นกระบวนการย่อย
อย่างที่เราทราบว่า อาหารหลักของ สัตว์เคี้ยวเอื้องจะประกอบด้วยพืชเป็นหลัก การเคี้ยวเอื้องหรือกกระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็เพื่อย่อยสลายสารที่อยู่ในพืชและกระตุ้นการย่อยอาหารนี้ให้ออกมาและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น