1. ต้องรู้จักแบ่งเวลา
ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากๆเลยนะคะ การที่เราเอาแต่สนใจหน้าจออยู่ตลอดเวลามันไม่ได้ทำให้อะไรๆดีขึ้น เช่น การบ้านไม่ยอมทำ งานบ้านไม่แตะ ใครเรียกหรือชวนไปไหนก็ทำหน้าบูด ฯลฯ ใครๆ ก็ดูออกว่าว่าเด็กนี่ติดเกมเป็นแน่แท้!
ซึ่งการแบ่งเวลานั้นเป็นงานฮาร์ดมากๆสำหรับบางคนค่ะ แต่ข้อนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปจริงๆนะ ถ้าอยู่ๆ จากปกติเล่นเกมวันละ 10 ชม. แล้วลดลงเหลือวันละ 1-2 ชม. ก็คงเป็นเรื่องยากมากกกกก ถึงทำได้ก็อาจจะเป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น นานๆไปก็จะวนลูปไปทำแบบเดิม
แนะนำ
คุณเธอลองค่อยๆลดเวลาในการเล่นเกมลงมาดูสิคะ เช่น จากปกติเล่นวันละ 8 ชม. เล่นทุกเวลาเลยที่มีโอกาส ก็ให้เหลือ 6-7 ชม. งดเล่นไปสักเวลานึง เช่น งดเล่นช่วงเช้า จากนั้นทำไปเรื่อยๆ ผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ลดเหลือ 5-6 ชม. งดเล่นเพิ่มอีกช่วงเวลานึง เช่น งดเล่นช่วงเย็น แล้วก็ค่อยๆลดหลั่นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบนะคะ ย้ำ! ไม่ต้องรีบ เพราะยิ่งรีบ หรือหักดิบมัน ยิ่งตบะแตกค่ะ! เชื่อดิชั้น!!
2. เวลาที่งดเล่นเกมก็หันมาทำอะไรที่เกิดประโยชน์ซะ
ถามว่าทำอะไรดีล่ะ คำตอบนี้ไม่ควรถามใครเนอะ คุณเธอลองสังเกตรอบตัวดูสิคะว่ามีอะไรที่พอทำเพื่อฆ่าเวลาได้บ้าง ไม่ว่าจะงานที่คั่งค้าง พื้นห้องที่เริ่มรก เสื้อผ้าที่ยังไม่รีด หรือแม้กระทั่งอาบน้ำ กินข้าว ถ้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรทำจริงๆ จะนอนหรือออกไปเที่ยวนอกบ้านก็ไม่มีใครว่าหนิจริงไหมจ้ะ ( ว่าแต่โควิดนี่สิ ;-; )
3. มองหางานอดิเรกเพิ่มเติม
การที่จะมีงานอดิเรกเพียงอย่างเดียวมันก็จะทำให้เรามุ่งไปโฟกัสอยู่ที่สิ่งนั้นสิ่งเดียว คุณเธอลองมองหางานอดิเรกเพิ่มขึ้นมาอีกสัก 1-2 อย่างดูสิคะ เช่น อ่านการ์ตูน วาดภาพ ถ่ายรูป เขียนนิยาย ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ จะช่วยให้เราละความสนใจจากการเล่นเกมได้บ้างนะ
วิธีนี้เป็นเพียงการแนะนำเท่านั้น ผลลัพธ์จะเป็นอยางไรก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติและพฤติกรรมของเหล่าคุณเธอด้วยเนอะ เกมน่ะเล่นได้ บันเทิงเริงใจดีจะตาย แต่ถ้าอะไรที่มันเกินพอดีมันย่อมมีผลเสียตามมาอยู่แล้วแหละค่ะทุกคนน
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น