หลายคนคงเคยเจอกับภาวะง่วงนอนหลังมื้ออาหาร งานก็ยังต้องทำ หนังตาก็พร้อมจะลดระดับตามแรงโน้มถ่วงของโลก ทางการแพทย์เรียกว่า Postprandial somnolence หรือ Food Coma ยิ่งถ้าเรากินอาหารประเภทแป้งหรือน้ำตาลเยอะเกินขนาด ยิ่งมีผลเร็วและนาน เพราะอาหารพวกนี้ มันจะไปเคาะประตูเจ้าหนูซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท แบบรัวๆ ให้ทำงานมากกว่าปกติ เราเลยเกิดอาการ อยากพักสายตายาวๆ แต่ แต่ แต่ เราอาจจะหลีกเลี่ยงได้บ้าง มาดูกันว่าจะยังไงดีน๊า ไม่ให้เกิดภาวะหนังตาตามแรงโน้มถ่วงหรือ Food Coma ไปดูกันเลยค่ะ
1. ลดคาร์โบไฮเดรต ให้ใช้สูตร วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง แต่นี่คือแป้งนิดนึง น้ำตาลอีกนิดนึง เน้นโปรตีน และผักต่าง ๆ เยอะ ๆ เพิ่มกากใยและเป็นมิตรต่อระบบขับถ่าย
2. เคี้ยวให้ละเอียด นับไปเลย 1 คำ เคี้ยวประมาณ 30 ครั้งก่อนกลืน น้องกระเพาะอาหารของเรา จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เหมือนกำลังสร้างท่อประปา ที่สำคัญมันทำให้น้ำตาลไม่สูงเกินไป และอิ่มเร็วด้วย เผลอ ๆ ได้ลดน้ำหนักไปในตัว ฮั่นแนะ! คุ้มสุด ๆ
3. อย่านั่งที่เดินนาน ๆ นี่ไม่ใช่การจำศีลนะหนู หลังกินข้าวเสร็จนั่งพักสัก 10 – 15 นาที ก็แล้ว นั่งนานร่างกายเราก็จะเข้าโหมดพักผ่อน ความง่วงมาเยือนแน่ ๆ ลุกหน่อย ลุกขึ้นขยับร่าง ขยับตัวหน่อย เดินไปห้องน้ำก็ได้ ไปชงกาแฟก็ได้ ไปไหนก็ไป
4. ชากาแฟช่วยได้ ไหน ๆ ก็ขยับร่างกายแล้ว ลุกไปชงชากาแฟดื่มเลยและกัน จิบชาหรือกาแฟสักแก้วบ่ายๆ ช่วยได้ แต่!!! ควรเป็นชาหรือกาแฟที่ไม่ใส่น้ำตาล ถ้าเดินลงไปซื้อกาแฟที่ร้าน แล้วสั่งมอคค่า ลาเต้เย็น เน้นหวานอีก คิดว่าไม่นาน ต้องมีอาการ สลีฟปี้บิวตี้แน่ค่ะ เน้นรสธรรมชาติดีกว่านะคะ เพราะเราแค่ต้องการเคเฟอีนจากมัน ไม่ต้องใส่สารเติมแต่งรสมากไป
5. เลือกงานให้ถูกเวลา หลังมื้ออาหารใหม่ ๆ อาจจะเน้นงานที่ได้ขยับร่างกายเยอะหน่อย เพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น งานที่ต้องใช้ความจำ ใช้สมาธิจดจ่อ เลื่อนไปก่อนสักพัก แตถ้าจำเป็นต้องทำจริง ๆ ก็ลองพักทุก ๆ 20-30 นาที ลุกขึ้นบิดตัวซ้ายขวาหน่อย ช่วยได้ค่ะ
ความง่วงหลังทานอาหาร จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องปกติมาก แต่บางครั้งเราอยู่ในสถานะที่นอนไม่ได้ หากเกิดอาการง่วงนอนในขณะที่เราทำงาน อาจจะเกิดอันตรายต่อตัวเองและคนอื่นได้ เช่น คนที่ทำงานกับเครื่องจักร หรือทำงานที่สูง อะไรก็แล้วแต่ หรือถ้าเราต้องทำงานเกี่ยวกับตัวเลข บัญชี การเงินของบริษัท อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ และเกิดผลเสียต่อบริษัทได้ รวมไปถึงการนั่งสับปะหงก มันก็ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเราด้วยเช่นกัน หวังว่าทริคต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับมนุษย์ทำงานทุกคนนะคะ
บทความเขียนโดย Kindgirl
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น