เล่าได้เล่าดีตอน นางฟ้าอสูร ละครธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

 

 

นานๆ เราจะได้เจอละครไทย ที่ถูกใจเราสักที และเมื่อมันเจอแล้ว ก็อดไม่ได้จะหลงรักจนหัวปักหัวปำ อย่างกับว่าไม่เคยถูกใจอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย ใช่จ้า.. เรากำลังพูดถึงละครเรื่องนางฟ้าอสูร ละครที่มีพล็อตเรื่องธรรมดาๆ แนวตลาดๆ แนวบ้านๆ ละครตบจูบทั่วไป ที่ใครได้ฟังชื่อเรื่องและได้อ่านพล็อตเรื่องแล้วก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า..เรื่องนี้มันน่าจะเป็นละครตบจูบ ที่น้ำเน่าสิ้นดี... 

 

 

นางฟ้าอสูร นำแสดงโดย แม็ค ปวิช เวียงนนท์, แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นซ์, ก้อง ห้วยไร่, แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย และบทละครเขียนโดย แสงแรก-สุขุม อำนวยการผลิตโดย ค่าย อัครพลโปรดักชั่น (พิศาล อัครเศรณี)  กำกับการแสดงโดย ธีรเดช สพันอยู่

 

 

พล็อตเรื่อง และเรื่องราวของนางฟ้าอสูรก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า นายเมฆ (แม็ค ปวิช เวียงนนท์) หนุ่มชาวประมง ที่ทั้งชีวิตอยู่กับท้องทะเล ที่รักและหวงเรือนางฟ้ามหาสมุทร ที่เป็นเครื่องมือทำมาหากิน หากแต่เมื่อต้องเสียมันไป เพราะความสะเพร่าขาดส่งค่างวด และเพื่อที่จะได้เรือที่รักมากกลับคืนมา  ด้วยความจับผลัดจัลผลู ตกกระไดพลอยโจน เมฆจำใจจับตัวดาริกา (แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นซ์) คุณหนูลูกสาวมหาเศรษฐี เจ้าของบริษัทเรือที่มายึดเรือของเขาไป เพื่อใช้ต่อรองเรื่องเรือ และหวังว่านี่คือทางเดียวที่เขาจะได้เรือสุดที่รักของเขากลับคืนมา  

เมื่อเราได้ฟังพล็อตเรื่อง เราก็เฮ้อ.. เรื่องนี้ไม่ใช่แนว.. จะดูดีไหม.. 

 

 

ที่ลังเลก็เพราะเราติดตามงานแสดงของ แม็ค ปวิช มาตั้งแต่เรื่องชาติเจ้าพระยา ที่แม็คแสดงในบท ยม ยอดเยี่ยม เนื่องจากว่าถูกใจในฝีมือการแสดงของเขา ก็เลยติดตามดูผลงานของเขามาเรื่อยๆ แม้ว่าหลายต่อหลายเรื่อง แม็คจะรับบทเป็นตำรวจหรือบอดี้การ์ด แต่งตัวมิดชิดติดกระดุมถึงลูกกระเดือก หากแต่ฝีมือการแสดงของเขามันเล็ดลอดทะลุเครื่องแบบออกมา  จนเราคิดในใจว่าด้วยฝีมือการแสดงแบบนี้ แม็คน่าจะได้เป็นพระเอก เป็นนักแสดงนำเดี่ยวกับเขาได้แล้วนะ 

และเมื่อเรื่องนางฟ้าอสูร แม็คได้รับโอกาสให้เป็นพระเอก เป็นนักแสดงนำแล้ว.. ทำไมเราจะไม่ดูล่ะ... 

ด้วยเหตุผลง่ายๆ นี่เองที่เราเปิดใจดูเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่สองสามปีที่ผ่านมาเราหันไปดูซี่รี่ส์ไต้หวันแล้ว แต่เมื่อได้ดูนางฟ้าอสูรตอนแรก เราบอกกับตัวเองเลยว่า.. เรื่องนี้มันอิหยังวะ.. เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดคิด.. 

 

 

จากฉากที่ดาริกา นางเอกในเรื่อง จะหนีพ่อไปเที่ยวกลางคืน แล้วยอมแลกเปลี่ยนสัญญาว่าจะช่วยนายเมฆ พระเอกในเรื่องว่าจะยอมคุยกับพ่อให้ แต่จะเรื่องอะไรนั้นดาริกาก็ไม่ได้สนใจ ในตอนนี้ขอให้ได้ลงจากกำแพงก่อน ซึ่งไอ้ท่าทางที่นางเอกลงจากกำแพงก็ไม่ธรรมดา ที่เราจะหาดูกันได้ในละครทั่วไป ก็คือการใช้เท้าบดบี้ใบหน้าพระเอกของเราจนหน้าเบี้ยว จนเซถลาล้มลงไปนอนที่พื้นกันทั้งคู่ จนกระโปรงคลุมหัวนายเมฆคนซื่อ ที่คิดว่าคนสวยและรวยมากอย่างลูกสาวมหาเศรษฐีคนนี้ จะรักษาสัญญาตามที่กล่าววาจาไว้ 

หากแต่ว่าไม่เลย เมื่อเธอได้หนีเที่ยวสมใจอยากแล้วก็ไม่เหลียวมอง ชายหนุ่มหน้าซื่อ ที่เธอเอ่ยปากสัญญาอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ จนทำให้นายเมฆ เดินคอตกกลับไปนอนที่หลังรถกระบะ ไอ้เพื่อนยาก ที่ใช้เป็นห้องอาหารยามหิวโหย เป็นห้องนอนยามเหนื่อยล้า แถมมันยังเป็นห้องน้ำไว้ใช้อาบในตอนเช้าได้อีกด้วย.. ให้ตายสิ.. เกิดมาเพิ่งจะรู้ว่า รถกระบะมันดีขนาดนี้.. เป็นอะไรให้นายได้ทุกอย่างแล้วจริงๆ!  

แค่สองฉากนี้ในอีพีแรก ก็ทำให้เราหัวเราะเสียงดังออกมาได้ อย่างที่ไม่เคยได้หัวเราะกับละครเรื่องไหนมานานนักหนาแล้ว.. แค่นี้แหละ...ง่ายๆ..  กับการตีหัวเข้าบ้าน อย่างชาญฉลาด ของละครนางฟ้าอสูร ละครตบจูบ.. ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

 

 

ความไม่ธรรมดาที่ถูกใจเรามากก็คือ บทละคร ที่เขียนออกได้อย่างฉลาด ล้ำลึก การดำเนินเรื่องที่ฉับไว ไม่ยืดเยื้อ บทสนทนาที่ซื่อๆ จริงใจ ฟังดูง่ายๆ ไม่ประดิษฐ์ และเสแสร้ง เหมาะกับเซ็ทติ้ง ที่เป็นละครแนวบ้านๆ ที่ตรงกับวิถีชีวิตของประชาชนคนธรรมดา ที่ทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำอย่างเราๆ ทุกคน ตัวละครทุกตัวมีดี มีเลว มีโกรธ เกลียด โลภโมโทสัน มีรัก มีแค้น มีการหลงผิด และยอมรับความผิดในการกระทำผิดของแต่ละคน แต่ละกรรม แต่ละวาระ

ไม่เว้นแม้แต่ตัวพระเอกเอง ที่พื้นฐานเป็นคนบ้านๆ การศึกษาไม่ปรากฏ เป็นคนซื่อๆ ตรงไปตรงมา รักใครรักจริง ขยันทำมาหากิน สู้ชีวิต ในยามดีๆ ก็ใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จนเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป แต่พอยามร้าย ก็โมโหเกรี้ยวกราด ไม่ยอมใคร มีความมุทะลุ ดุดัน เมื่ออารมณ์ขึ้นก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ ใครแรงมาก็แรงกลับ ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งลักษณะแบบนี้ คือลักษณะของพระเอกคลาสสิค ที่มีความเป็นคนจริงๆ มากที่สุด ของผู้จัดละครตบจูบ ฝีมือชั้นครูของคุณพิศาล อัครเศรณี ที่แท้ทรู ที่ต่อไปจากนี้คงจะหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เพราะนางฟ้าอสูร คือผลงานชิ้นสุดท้ายของอาเปี๊ยก ที่ทิ้งไว้ให้พวกเราได้ดูกัน 

 

 

นอกจากความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของนางฟ้าอสูร ในเรื่องบทแล้ว ความไม่ธรรมดาในเรื่องการแคสติ้งตัวละคร ที่แคสติ้งอย่างไรให้ได้นักแสดงที่เข้ากับบทละครมากที่สุด จากการที่ได้ติดตามผลงานละครของอาเปี๊ยก พิศาล มาพอสมควร ก็รู้ว่าอาเปี๊ยกจะให้โอกาสนักแสดงหน้าใหม่ หน้าเก่า และทีมงานเบื้องหน้าเบื้องหลังเสมอ จึงไม่แปลกใจที่อาเปี๊ยกให้โอกาส แม็ค ปวิช เป็นพระเอกและแจ็คกี้ ชาเคอลีน เป็นนางเอก แสดงนำในเรื่องนี้ ซึ่งในสายตาของเรา ไม่มีใครเหมาะกับบทนายเมฆ ไปกว่าแม็ค ปวิชอีกแล้ว เพราะแม็คเกิดมากับบทบู้ และชอบแสดงบทบู้เป็นการส่วนตัวอีกด้วย ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีบทบู้ไม่เยอะก็ตาม แต่ก็มีบทต่อสู้และโลดโผนอยู่ไม่ใช่น้อย ส่วนแจ็คกี้ สาวสวยอารมณ์ดี ฝีมือการแสดงไม่เป็นสองรอง ใครมารับบทเป็นนางฟ้า หรือดาริกา ที่เราว่าเธอก็เหมาะกับบทนี้ที่สุด 

นอกจากนี้แล้วบทของไอ้หมึก เพื่อนสนิทของนายเมฆ ผู้ที่มีความฝันจะเป็นนักร้องชื่อดัง ก็เลือกก้อง ห้วยไร่ นักร้องหนุ่มมารับบทนี้ และบทของพัชรี นางเอกลิเกก็เลือกน้องแป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย มารับบทนี้เช่นกัน ซึ่งสำหรับเรา การที่อาเปี๊ยกเลือกให้โอกาสนักแสดงที่มีความสามารถเฉพาะทาง มารับบทตัวละครที่มีความสามารถเฉพาะทาง คือเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ เพราะมันทำให้ตัวละครนั้นดูเรียลขึ้นมาทันที นี่ก็คือความชาญฉลาด และความคิดของผู้จัดชั้นครู ที่เรานับถือ และนี่ก็คืออีกความที่ไม่ธรรมดาของละครเรื่องนี้ 

 

 

 และอีกหนึ่งความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเรื่องนี้ก็คือ ละครเรื่องนี้เป็นละครที่ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปได้ห้าถึงหกปีแล้ว หากแต่โดนดอง อยู่ในโหลมาจนกระทั่งปีนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เหมาะสมเสียที ที่ทางช่องนำมาออกอากาศให้เราๆ ได้ชมกัน และผิดคาดหมาย กับความประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น เพียงแค่ข้ามวัน.. บ้าไปแล้ว... จนเกิดกระแส นายเมฆฟีเว่อร์ เพราะการแสดงของแม็ค ปวิช ที่แสดงเข้าถึงบทบาท นายเมฆ ผู้เกรี้ยวกราด ดุดัน มาดกวน หากแต่ใสซื่อ แบบบ้านๆ ทุกกิริยา อาการ และท่าทางของแม็คแสดงออกมา สื่อถึงความคิด ความอ่านของตัวนายเมฆ ที่คิดอย่างไรก็แสดงออกไปอย่างนั้นโดยไม่คิดที่จะปิดบัง และเสแสร้งแต่อย่างใด กอปรกับการแสดงของแจ็คกี้ ที่ยอดเยี่ยมน่าชื่นชม ที่ทำให้ดาริกา สาวสวย ลูกสาวมหาเศรษฐี กลายเป็นนางฟ้าอสูร คู่ปรับของนายเมฆได้อย่างเข้าขา ถึงพริกถึงขิง นายเมฆมาแรง นางฟ้าก็แรงกลับเป็นสองเท่าแบบไม่โกง กินกันไม่ลงจริงๆ สำหรับพระเอกนางเอกของเรา ที่ปล่อยของ ปล่อยพลังและฝีมือการแสดงใส่กันอย่างไม่มียั้ง ทั้งในบทดราม่าและหวานแหวว จนทำให้นางฟ้าอสูร เป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมาก จนทะลุทะลวงจอโทรทัศน์ เข้าไปถึงในโซเชียลมีเดียทุกๆแพลตฟอร์ม จนมีคนติดตามดูกันเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ซึ่งจะเห็นได้จากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกอีพี 

นอกจากการได้นักแสดงนำอย่างแม็คและแจ็คกี้ ที่ปล่อยพลังออกมาสู้รบกันอย่างไม่มีใครยอมใครแล้ว ในบทนายเมฆและนางฟ้าแล้ว เรื่องนี้ยังมีกองทัพพลังเสริมจากก้องและแป้ง ในบทหมึกและพัชรี ที่เป็นเรื่องแรกและยังใหม่ต่อการเล่นละคร หากแต่ฝีมือการแสดงที่ทำได้ดี จนเราต้องชื่นชมกับการแสดงของสองคนนี้อย่างจริงใจ อีกทั้งนักแสดงสมทบมากมาย ที่มาสร้างสีสันในเรื่องนี้ ก็ปล่อยพลังปล่อยของกันแบบไม่มีใครยอมใครกันจริง แต่ละคู่สู้กับอย่างดุเดือด อย่างกำนันสรวงและพ่อแต้มที่ช่วงชิงแม่ไข่มุก อย่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งตาช่วงกับยายบัว สองผัวเมียที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวด่ากันในทุกๆ สิบวิ ร่วมด้วยนักแสดงคนอื่นๆ ที่ทุ่มเทการแสดงให้กับเรื่องนี้อย่างสุดฝีมือ จึงทำให้นางฟ้าอสูร ละครพล็อตเรื่องธรรมดา ดูออกมาแล้วไม่ธรรมดา เพราะมันดูเรียลไปหมดตั้งแต่การแสดงของนักแสดงแต่ละคนที่เนียนมาก จนทำให้คนดูอินและคิดว่าเขาคือตัวละครตัวนั้นๆ จริงๆ อีกทั้งเซ็ทติ้ง ของรูปแบบวิถีความเป็นอยู่แบบบ้านๆ ที่ดูเรียลสมจริง ไม่เสแสร้ง จนทำให้เราลืมทุกอย่างและพร้อมที่จะ Lost into the story ไปกับเรื่องราวของพวกเขาจริงๆ 

 

และนั่นคือความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของละครนางฟ้าอสูร ที่ในตอนแรกเราไม่ค่อยอยากจะดู แต่เมื่อได้เปิดใจดูแล้ว นางฟ้าอสูรเป็นเรื่องราวที่มีอะไรมากกว่าละครตบจูบ เรื่องนี้มีคติสอนใจในการดำรงชีวิต ที่ไม่ยัดเยียดเข้าไปในบทพูด หากแต่สอดแทรกอยู่ในการกระทำ ของตัวละครแต่ละตัว ที่ทุกๆ คนในเรื่องนี้ ได้รับผลของการกระทำของพวกเขาทุกคน ที่นำเสนอในแบบเบาๆ ดูสบายๆ ตลกหัวร่องอหาย อย่างไม่ยัดเยียดว่านี่คือละครตลกคอมมาดี้ เพราะแม็ค ปวิชได้กล่าวไว้ว่า พวกเขาทุกคนไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้ออกมาดราม่า หรือตลก หรืออะไร แต่อย่างใด.. หากแต่มันเป็นเพราะความทุ่มเทกับการแสดงที่ให้เข้าถึงบทบาทต่างหาก และนักแสดงทุกๆ คนก็ทำได้ดี และดีมากๆ ด้วยในสายตาของเรา จึงส่งผลให้ละครเรื่องนี้ออกมาอย่างมีคุณภาพ

 

สำหรับผู้ที่ได้ติดตาม แม็ค ปวิชมาเป็นเวลานาน ในระยะเวลาที่ผ่านมาที่เราดูแม็ค ในละครต่างๆ ที่ได้รับบทบาทเป็นตัวรอง ตัวสาม ตัวสี่ เรามีความรู้สึกว่าเราอยากเห็นแม็ค ปวิชได้รับบทที่มีแอร์ไทม์เยอะๆ เราอยากเห็นฝีมือการแสดงของแม็คเยอะๆ แต่ทุกๆ เรื่องที่ผ่านมาแม็คก็ออกมานิดๆ หน่อยๆ แบบมันไม่จุใจ จนกระทั่งเรื่องนางฟ้าอสูรนี้ ที่แม็คได้แอร์ไทม์แบบเต็มๆ แถมได้มีโอกาสปล่อยของ ปล่อยพลัง และฝีมือการแสดงที่พวกเราอยากเห็นมานานนักหนาแล้ว มันก็เหมือนกับการปลดล็อกการรอคอย และนี่ก็คือเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้แม็ค โด่งดังชั่วข้ามคืน เพราะไม่ว่าแม็คจะรู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้ว เขามีฐานแฟนคลับอยู่มากมายที่รอคอยวันนี้ วันที่จะได้ชมได้ดูการแสดงของแม็ค อย่างแบบจุใจ แบบจุกๆ ไปเลยแบบนี้  

ถึงเวลานี้เรา และเชื่อว่าแฟนคลับ พ่อยก แม่ยก ทุกๆ คนดีใจกับแม็ค ที่ได้รับบทพระเอกเรื่องแรกในบทของนายเมฆ ที่มีอะไรให้แม็คได้แสดงฝีมือแบบเต็มๆ และขอขอบคุณแม็คที่ทุ่มเทกับการแสดงในทุกครั้งๆ ในทุกบทบาทการแสดงที่ได้รับ เราเชื่อว่าแม็คก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งนี่แหละ ที่มีอาชีพนักแสดง ที่เมื่อได้รับหน้าที่ใดๆ แล้วก็จะทำมันสุดความสามารถ และในวันนี้ผลงานของแม็ค ก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายของทุกคนๆ แล้วจริงๆ

 

 

ซึ่งตอนนี้นางฟ้าอสูร ละครนอกสายตาหากแต่เป็นม้ามืด ได้ลาจอไปแล้วอย่างสวยงามกับเรตติ้งที่ถล่มทลาย ทำให้แม็คและแจ็คกี้ แจ้งเกิดกับการเป็นพระเอกนางเอกอย่างเต็มตัว ซึ่งถ้าใครพลาดการชมละครเรื่องนี้ หรือต้องการที่จะชมผลงานของทั้งแม็คและแจ็คกี้ ในเรื่องนางฟ้าอสูร ก็สามารถชมได้ย้อนหลังที่ Ch3+ และยูทูปนะคะ และหวังว่าจะติดตามเป็นกำลังใจให้แม็ค ปวิช และแจ็คกี้ กับอาชีพนักแสดงที่รักของเขาทั้งสองต่อๆ ไปนะคะ ทุกคน..

สำหรับวันนี้เราก็ลาไปก่อนแล้วพบกันคราวหน้าค่ะ ดูว่าเราจะมาเล่าเรื่องอะไรให้คุณๆ ได้ฟังกันอีก 

โอ๋ ณ เมกา

ขอบคุณรูปภาพจากละครนางฟ้าอสูร และไอจีของแม็ค ปวิช เวียงนนท์ 

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน

The journey of a thousand miles begins with one step.

บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์