สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้จะมาพูดเรื่องพืชที่เชื่อว่าทุกบ้านต้องปลูก และควรจะปลูกอย่างมาก นั่นก็คือ.....ว่านหางจระเข้..พืชสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ดูแลทั้งผิวหนังและดีต่อความงาม สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าว่านหางจระเข้มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทราบดังนี้ค่ะ
ลักษณะทั่วไปของว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้จัดอยู่ในพืชตระกูล Aloaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Aloe vera (Linn.) Burm. f. โดยว่านหางจระเข้มีมากกว่า 300พันธุ์ มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เป็นไม้ล้มลุก มีข้อ และปล้องสั้น ใบเดี่ยวออกเรียงเวียนรอบต้น โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบมีหนามแหลม แผ่นใบหนาอวบน้ำมาก ข้างในเป็นวุ้นใส น้ำยางสีน้ำตาลอมเหลือง ดอกเป็นช่อแตกออกที่ปลายยอด โคนดอกย่อยเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายกลีบดอกแยกเป็น 6 แฉก สีส้มแกมเหลือง ผลเป็นผลแห้ง แตกได้
ส่วนที่นำมาใช้
-วุ้นจากใบ ใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวก ผิวหนังอักเสบบวม แมลงกัดต่อย เริม และฝี
-ยางจากใบ และต้น ใช้รักษาอาการท้องผูก
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ต่อร่างกายภายนอก
1. รักษาแผลไฟไหม้ และน้ำร้อนลวก ผิวหนังไหม้จากแสงแดด
โดยว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน สมานแผลให้เร็วขึ้น ช่วยรักษาผิวหนังไหม้จากการฉายรังสี หรือจากการเป็นแผลเรื้อรังที่เกิดจากการฉายรังสีอีกด้วย
2. ช่วยสมานแผลจากของมีคม และแผลถลอก
หากได้รับบาดเจ็บจากของมีคม ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้สดที่ยังมีเมือกอยู่ แปะลงไปบนแผล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสมานแผลให้เร็วขึ้นได้
3. ช่วยรักษาตาปลา และฮ่องกงฟุต
โดยการใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาปิดไว้ตรงบริเวณที่เป็น และควรหมั่นเปลี่ยนวุ้นว่านหางจระเข้บ่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น
4. วุ้นว่านหางจระเข้ช่วยทำให้แผลเป็นจางได้เร็ว
อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นบนผิวได้ด้วย
5. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง
ว่านหางจระเข้ช่วยบำรุงผิวไม่ให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม และเต่งตึงขึ้น
6. รักษาฝ้าให้จางลงได้
7. วุ้นของว่านหางจระเข้ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน
ซึ่งจะช่วยลดการตกสะเก็ด และลดอาการคันได้
8. ว่านหางจระเข้ช่วยรักษาสิว และจุดด่างดำ
โดยว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลดการติดเชื้อ และมีกรดอ่อนๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ หากใช้ต่อเนื่องจะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่างๆดูจางลง
9. ลดอาการปวดศีรษะ
โดยตัดใบสดจากต้นว่านหางจระเข้ แล้วนำปูนแดงทาบริเวณวุ้น ถือใบสดแล้วนำวุ้นผสมปูนแดงประคบบริเวณขมับหรือท้ายทอย ตามจุดที่ปวด จะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะได้
10. บำรุงเส้นผมให้เงางาม และช่วยขจัดรังแค
โดยชโลมลงบนเส้นผมให้ทั่ว เพื่อให้ผมสลวยเงางาม หากนวดบริเวณรากผมจะช่วยให้รากผมเย็นลง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ รักษาแผลบนศีรษะ และขจัดรังแคได้ด้วย
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ต่อร่างกายภายใน (เมื่อนำมารับประทาน)
1. มีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ชราได้
รวมทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
2. อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนหลากหลายชนิด
รวมทั้งสารอาหารชนิดต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังให้ประโยชน์ในหลายด้าน เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี6 วิตามินบี9 วิตามินบี12 วิตามินซี วิตามินอี และโคลีน
3. มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร รวมทั้งช่วยทำความสะอาดลำไส้ใหญ่
เสมือนเป็นการดีท็อกซ์ล้างสารพิษที่อยู่ภายในร่างกาย ช่วยให้ระบบการทำงานของกระเพาะอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น
4. วุ้นว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะในขณะที่ท้องว่าง ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารด้วยเช่นกัน
5. เป็นยาระบาย
โดยเปลือกว่านหางจระเข้นั้นจะมีน้ำยางสีเหลือง ซึ่งในน้ำยางนั้นจะมีสารที่เรียกว่าสารแอนทราควิโนน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย เมื่อนำน้ำยางไปเคี่ยวจนน้ำมันระเหยออกมา จากนั้นพักไว้ให้เย็น จะได้สารสีดำหรือที่เรียกว่า ยาดำ ซึ่งยาตัวนี้จะเป็นยาที่อยู่ในตำรับยาแผนโบราณที่ใช้เป็นยาระบายอยู่ในหลายตำรา
6. ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
โดยการรับประทานเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้จะช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
7. แก้ และป้องกันอาการเมารถ-เมาเรือ
โดยให้ลองรับประทานเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้ หรือน้ำว่านหางจระเข้ก่อนออกเดินทาง แต่หากเกิดอาการเมารถ-เมาเรือขึ้นแล้ว ลองทานน้ำว่านหางจระเข้เย็นๆแล้วนั่งพักสักครู่ จะรู้สึกดีขึ้น
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมละคะว่าสรรพคุณจากว่านหางจระเข้นั้นมีมากมายจริงๆ เมื่อทราบถึงประโยชน์จากว่านหางจระเข้ดีแล้ว หวังว่าหากมีโอกาสคุณจะนำมันไปรักษาหรือบำบัดอาการป่วยบ้างนะคะ
เชื่อว่าการรักษาหรือบำบัดโรคด้วยสมุนไพรไทยพื้นบ้านอย่างว่านหางจระเข้จะทำให้อาการเจ็บป่วยทุเลาลงได้ดีแน่นอน แถมยังช่วยประหยัดเงินค่ายาแผนปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยค่ะ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น