ลูกน้องแบบไหนบ้างที่หัวหน้างานรักมาก? (What Kind of Subordinates Boss Love?)

ลูกน้องแบบไหนบ้างที่หัวหน้างานรักมาก? (What Kind of Subordinates Boss Love?)

ในองค์กร แต่ละองค์กร ก็ต้องมีบุคลากร มากมาย และแต่ละคนก็ต่าง นิสัย แตกต่างบุคคลิกกันไป ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในแต่ละองค์กร ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของคน การบริหารจัดการคน เพราะคนมีชีวิตจิตใจ ไม่เหมือนเครื่องจักร หรือหุ่นยนต์ ซึ่งก็เป็นปัญหาโลกแตกมากๆ สำหรับแต่ละองค์กร ที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้แบบถาวร

ซึ่งปัญหาระหว่างหัวหน้างานกับลูกน้องที่ทำงานเข้ากันไม่ได้ ก็เป็นปัญหาส่วนใหญ่เลยทที่เกิดขึ้นใน ทุกๆ องค์กร ผมจึงต้องการที่จะมาแชร์ประสบการณ์ทั้งในฐานะลูกน้องและหัวหน้างาน ซึ่งอาจจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ว่าลูกน้องลักษณะอย่างไรบ้าง ที่หัวหน้างานชอบมากๆๆ และรักมากๆๆ สำหรับลักษณะนิสัยของลูกน้องแบบใดบ้างที่หัวหน้างานทั้งชอบทั้งรักนั้น สิ่งแรกเลยที่คนเป็นลูกน้องต้องมีนั้นก็คือ

การมีมนุษสัมพันธ์ที่ดี (Good Relationship)

แน่นอนนะครับว่า การเริ่มความสัมพันธ์กันใหม่ๆ ระหว่างหัวหน้างานกับลูกน้อง ก็ย่อมต้องการ การพูดคุยกันให้มากๆ ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ต้องมีการพูดคุยกัน มีการสอบถามกัน และหากหัวหน้างานมีการสอบถามข้อมูลอะไรกับลูกน้อง ลูกน้องก็ควรที่จะให้คำตอบที่ดี ข้อมูลที่ดี และด้วยความยินดีด้วย และบ้างครั้งลูกน้องอาจจะต้องถามหัวหน้างานไปเลยว่า เราตอบได้ตรงคำถามไหม ข้อมูลเพียงพอไหม ต้องการให้ช่วยอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า เพียงแค่นี้ หัวหน้างานก็มีความปลื้มใจ และมีความสุขใจที่จะทำงานร่วมกันแล้วครับ

การให้ความร่วมมือที่ดี (Good Cooperation)

ความต้องการอันดับต้นๆ ของหัวหน้าหลายๆคนต้องการ ลูกน้องที่มีความร่วมมือที่ดี มีการสนับสนุนที่ดีจากลูกน้องหรือทีมงาน ลูกน้องที่ดีควรให้ความร่วมมือที่ดีต่อหัวหน้างาน ให้การสนับสนุนหัวหน้างาน หากมีข้อโต้แย้งกับหัวหน้างานก็ควรแสดงให้เห็นว่า เรามีความตั้งใจจริงๆ ที่ต้องการให้งานหรือหัวหน้างาน ทำงานได้สำเร็จลุล่วง นั้นเอง

มีความเข้าใจในความต้องการของหัวหน้างาน (Understand the Boss Completely)

หัวหน้างานส่วนใหญ่ก็ต้องการที่จะมีลูกน้องที่รู้ใจ อยู่เคียงข้าง เพื่อคอยสนับสนุน และทำงานเคียงข้างกันอย่างรู้ใจ เช่น ในบ้างครั้งที่ หัวหน้างานมีความต้องการอะไรสักอย่างหนึ่ง หากเพียงแค่สบตาลูกน้อง และลูกน้องคนนั้น สามารถตอบสนองความต้องการได้ ก็จะทำให้หัวหน้างานมีความปลื้มใจ และทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากลูกน้องสามารถ คาดเดาความต้องการของหัวหน้างานได้ ก็จะทำให้สามารถแบ่งเบาภาระของหัวหน้างานได้ และสร้างความไว้วางใจที่หัวหน้างานมีให้กับลูกน้องมีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

มีความฉลาดและเป็นที่ปรึกษาที่ดี (Smart and Professional Advisors)

ในหลายๆ ครั้งที่หัวหน้างาน ต้องการที่ปรึกษาที่ดี และมีความฉลาด เพราะในงานบ้างงาน หัวหน้างานเองก็ไม่ได้เก่ง หรือเชียวชาญในเรื่องนั้นๆ จึงจะต้องมีทีมงานหรือลูกน้อง ที่เป็นลักษณะของคู่คิด หรือ ที่ปรึกษาที่ดี ที่ชาญฉลาด นั้นเอง

มีวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์ (Creative Visions)

หากลูกน้องมีความคิดที่สร้างสรรค์ มีมุมมองที่สร้างสรรค์ ที่ดี ที่ยอดเยียมแล้วนั้น ก็จะทำให้องค์กร สามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่าง เช่น ในกรณีที่ ลูกน้องได้ทำงานที่ยากๆ ที่ไม่เคยทำ หรือ ทำงานที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของตัวเองเลย แต่ลูกน้องก็ ยอมลงมือทำอย่างเต็มที่ และพยายามทำให้สำเร็จ หากสุดท้ายแล้ว ผลงานอาจจะไม่ดี แต่หัวหน้างานก็มองเห็นแล้วว่า ลูกน้องคนนี้ มีความตั้งใจ และ มีมุมมองในการทำงานที่ดี ที่สร้างสรรค์ ไม่คิดลบ หรือตอบปฏิเสธว่าทำไม่ได้ และมีความกระตื้อรือร้นที่ต้องการจะพัฒนาความสามารถของตนเองอยู่เสมอๆ

มีความขยันและตั้งใจทำงาน (Diligent and Hard Working)

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ว่า หัวหน้างานส่วนใหญ่ ก็จะชอบลูกน้องที่มีความขยัน และตั้งใจทำงาน ทำงานหนักๆได้ โดยที่ไม่บ่น และมีผลงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันจะทำให้หัวหน้างานนั้น ไม่ต้องแบกภาระหนักเกินไป และประสิทธิภาพการทำงานก็จะออกมาดีด้วยเช่นกัน

ต้องไม่ทำในสิ่งที่หัวหน้างานไม่ชอบ (Must Not do anything as the Boss Doesn't Like)

เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ว่ามีส่วนมากหัวหน้างานย่อมไม่ชอบ ลูกน้องที่ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ซึ่งมีน้อยมากๆ ที่หัวหน้างานจะมีภาวะความเป็นผู้นำจริงๆ ยกตัวอย่าง เช่น หัวหน้างานบ้างคน ไม่ชอบลูกน้องที่ชอบขู่ ตะคอก พูดเสียงดัง หรือ หัวหน้างานบ้างคน ไม่ชอบลูกน้องที่ชอบเถียง ทะเลาะ หรือ หัวหน้างานบ้างคน ไม่ชอบลูกน้องที่ขี้เกียจ ชอบเล่นโทรศัพท์ เดินไปเดินมา กินขนม กินกาแฟ ไม่ยอมทำงาน เป็นต้น เมื่อเรารู้ว่าหัวหน้างานเราไม่ชอบ อะไรเราก็อย่าทำนะครับ

โดยสรุปแล้ว นั้นก็คือ คนที่เป็นลูกน้อง ก็ต้องทำตามคำสั่งของ หัวหน้างานนั้นเอง และต้องไม่ขัดแย้ง หรือทำในสิ่งที่หัวหน้างานไม่ชอบ ทำงานอย่างมืออาชีพ ตั้งใจทำงานของตนให้มีประสิทธิภาพ มากที่สุด แล้วหัวหน้างาน หรือ องค์กร ก็จะมองเห็นความตั้งใจของคุณเอง ว่าคุณมีคุณค่าต่อองค์กรอย่างแท้จริง ครับผม