เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมซักเสื้อผ้าเองแล้วไม่หอมเหมือนแม่ซักให้ที่บ้าน หรือส่งร้านซักรีด ทั้ง ๆ ที่ไปส่องดูแล้วว่าใช้น้ำยายี่ห้อเดียวกัน
หากคุณสงสัยว่าจะทำอย่างไรให้ผ้าของคุณมีกลิ่นหอม และหอมสดชื่นได้นานขึ้น ลองดูเคล็ดลับที่จะทำให้การซักผ้าของคุณมีกลิ่นหอมกันค่ะ
-
ขจัดกลิ่นที่มีอยู่
บางคนมีกลิ่นตัวติดกับเสื้อผ้า หรือกลิ่นเหงื่อหลังออกกำลังกาย ให้ลองแช่เสื้อผ้าในน้ำร้อน แล้วใส่น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย แช่ไว้ 10 นาที ก่อนซักเสื้อผ้าของคุณตามปกติด้วยผงซักฟอก
น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยละลายผงซักฟอกที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้อากาศที่อยู่บริเวณโดยรอบของผ้านั้นสามารถเข้าไปในเส้นใยของผ้าได้ง่ายขึ้น ทำให้ผ้าที่ได้จากการซักสะอาด และนุ่มขึ้น
2. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้มข้น
เดี๋ยวนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มเข้มข้นมีกลิ่นให้เลือกหลากหลาย จะช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมเหมือนกับฉีดน้ำหอม เลือกใช้ได้ตามชอบเลยนะคะ
3.ใช้เครื่องอบผ้า
เมื่อก่อนเราเคยเชื่อว่า การตากผ้าให้โดนแดดจัด ๆ จะช่วยฆ่าเชื้อโรค แต่ที่จริงแล้ว การตากผ้ากลางแจ้งจะทำให้มีฝุ่น และเชื้อโรคมาติดตามผ้า การใช้เครื่องอบผ้าจะช่วยลดปัญหากลิ่น และฝุ่นที่ติดตามเสื้อผ้าที่เรามองไม่เห็น ปัจจุบันเครื่องอบผ้ามีราคาไม่สูงมาก ใช้งานสะดวก เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาตากผ้า ผ้าที่ได้จะนุ่มฟู และหอมนานยิ่งขึ้นค่ะ
4.สเปรย์ฉีดผ้าหอม
เทคนิคนี้ได้มาจากร้านซักรีดค่ะ มีสเปรย์ฉีดหลังซักผ้า เพื่อให้กลิ่นหอมติดทนนาน สเปรย์ฉีดผ้าหอมมีหลายกลิ่นให้เลือกใช้ ยิ่งถ้าใช้กลิ่นเดียวกับน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้วล่ะก็กลิ่นยิ่งหอมติดผ้านานจนถึงการซักเลยค่ะ
5. การเก็บรักษาเสื้อผ้าที่ซักแล้ว
เมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว ควรเก็บพับหรือแขวนในตู้ทันทีที่แห้ง และอาจใส่ถุงหอมแขวนไว้ในตู้ด้วย เผื่อว่าเสื้อผ้าบางตัวไม่ได้ใส่นาน ๆ อาจมีกลิ่นอับได้ ตู้เสื้อผ้าควรมีอากาศถ่ายเท และดูแลอย่าให้มีราขึ้นในตู้เสื้อผ้าด้วยนะคะ
หวังว่าเทคนิคการซักผ้าให้หอมเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น