รีวิวเกม ( อินดี้ ) เก่าที่น่าลอง: Moonscars

MOONSCARS



   สำหรับใครที่ติดตามข่าวในวงการเกมมาอย่างใกล้ชิด ผมเชื่อว่าคงจะได้เห็นเกมนี้ผ่านตามาบ้าง แต่เพราะด้วยความเป็นเกมอินดี้นี่ล่ะ ที่จะทำให้เราเกิดความคิดต่าง ๆ นา ๆ ว่า มันคุ้มกับเงินที่ซื้อไหมนะ มันจะสนุกหรือเปล่า กลัวเสียเวลาเล่นจัง ฯลฯ วันนี้ผมเลยจะมาพูดถึงเกมนี้ให้ฟังกันครับ เผื่อจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อเกมได้บ้าง กับเกม Moonscars

   Grey Irma นักดาบหญิงที่เกิดจากดินเหนียว และถูกสร้างให้เหมือนมนุษย์ เธอถูกส่งไปทำภารกิจในสมรภูมิ และรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่หลังจากที่เธอฟื้นขึ้น เธอรู้แค่ว่า ต้องตามหาคน ๆ หนึ่ง คนที่สร้างเธอ เพื่อไขความลับว่าการมีตัวตนของเธอนั้น มีอยู่เพื่ออะไรกันแน่
   เกมจะเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผ่านบทสนทนา ผ่านจากการขายไอเทม ผ่าน NPC ตามทาง ในส่วนตรงนี้ผมคิดว่า ถ้าอยากเข้าใจเนื้อเรื่อง ต้องใช้ภาษานิดหน่อย แต่สำหรับใครที่จะเล่นเอาเกมเพลย์อย่างเดียว ก็อาจจะมีบางจุดครับ ประมาณสัก 10% ของเกม ที่ NPC จะบอกให้เราทำอะไร ไปที่ไหน ผ่านบทสนทนา แต่ก็สามารถเล่นเกมจนจบได้

   ครั้งแรกที่ผมเห็นเกมนี้ ผมคิดแบบง่าย ๆ เลยว่า คงเป็นแนว Metroidvania นั่นล่ะ แต่หลังจากที่ได้ลองเล่นก็รู้เลยว่า ไม่ใช้แค่ Metroidvania นะ มันยังมีความเป็น Souls like อีกด้วย ตัวเกมค่อนข้างเร็ว ศัตรูเห็นเป็นวิ่งเข้าใส่ บอสนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย จะหลบ จะตี แทบไม่ได้หยุดพัก
   ถึงแม้ตัวเกมจะมีกราฟิกเป็น Pixel art แต่เราก็สัมผัสได้เลยว่า ผู้พัฒนาอยากให้โลกของเกมออกมาเป็นแบบไหน เราจะได้พบกับบรรยากาศมืดมน โลกที่เต็มไปด้วยเลือด ซากศพ กับดัก สัตว์ประหลาด ในโทนสีแดงดำตลอดทั้งเกม และถึงแม้ตัวเกมจะมีธีมเป็นโทนมืด ๆ ไร้สีสัน แต่พอเราเล่นถึงโซนใหม่ ๆ ก็จะเห็นความแตกต่างของแต่ละโซนได้อย่างชัดเจน

   แน่นอนว่า ขึ้นชื่อว่าแนว Souls like มันต้องมีความโหดที่ทำให้เราหัวร้อน แค่ศัตรูธรรมดาก็สามารถฆ่าเราได้ภายในการโจมตีไม่กี่ที คุณต้องตี คุณต้องหลบ และที่สำคัญเลยก็คือ การ Parry โดยส่วนตัวแล้ว การ Parry ของเกมนี้ จับจังหวะไม่ยากครับ มันทำให้เรารับมือกับศัตรูที่ไม่ใช่บอสง่ายมาก แทบจะทั้งเกมเลยก็ว่าได้
   นอกจากการ Parry ตัวเกมก็มีท่าโจมตีพิเศษมาให้ใช้ด้วย ซึ่งเป็นการโจมตีที่รุนแรงกว่าการโจมตีปกติ แต่อาจจะมีการออกท่าที่ช้ากว่า แล้วก็มีสกิลที่เหมือนเป็นการใช้เวทให้เลือกใช้จากความรู้สึกส่วนตัว ผมไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จาก ท่าโจมตีพิเศษ กับสกิล ที่ทางตัวเกมให้มาสักเท่าไร ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ว่าการโจมตีปกติของเกมนี้มันค่อนข้าง OP ถ้าตีติด
คริเมื่อไร ศัตรูก็ร้องเหมือนกัน แต่ในบางสถานการณ์ การใช้สกิลก็อาจจะทำให้เล่นได้ง่ายกว่า ยกตัวอย่างเช่น ศัตรูที่อยู่กลางอากาศ ที่ส่วนใหญ่มักจะมีการโจมตีระยะไกล Parry ก็ยาก ใช้สกิลยิงไปเลยง่ายดี ดีกว่าการที่ต้องมากระโดดตีทีละทีสองทีอย่างแน่นอน ในบางฉาก ศัตรูบางตัวก็บังคับให้ใช้สกิลอย่างเดียวด้วยถึงจะฆ่ามันได้ เพราะฉะนั้น การบริหารมานาก็เป็นเรื่องสำคัญ
   อีกสิ่งสำคัญของการพัฒนาตัวละครเลยก็คือ การสำรวจ เพราะการจะเพิ่มค่า Status ถาวรของตัวละครนั้น ได้มาจากการสำรวจทั้งสิ้น การพัฒนาตัวละครที่ง่ายที่สุดของเกมเลยก็คือ การฆ่าศัตรู หลังจากที่ฆ่าศัตรู คุณจะได้รับ Bone powder ซึ่งเป็นเหมือนสกุลเงินของเกม เอาไว้เรียนสกิล รวมไปถึงการซื้อของจาก NPC แน่นอนว่า ถ้าเราตายระหว่างทาง เราจะเสีย Bone powder ทั้งหมดที่เรามีไป อยากได้คืนก็ต้องกลับมาเอาในจุดที่เราตาย เหมือนกับเกมตระกลู Souls ที่เรารู้จักกันดี
   นอกจากการฆ่าศัตรูจะได้รับ Bone powder แล้ว เรายังสามารถฆ่าศัตรู เพื่อเพิ่มค่าพลังให้กับหลอดใส ๆ ที่อยู่ทางด้านซ้ายบนของจอได้อีกด้วย หลังจากที่เราฆ่าศัตรูจนหลอดเต็ม คุณก็จะได้เลือกค่าพลัง 1 จาก 3 อย่าง ที่ตัวเกมสุ่มมาให้ หลังจากนั้นก็จะเก็บแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ หลอดเต็มเลือก 1 อย่าง หลอดเต็มเลือก 1 อย่าง ( คิดว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับระบบนี้ดี ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็ให้นึกถึง Vampire Survivors เลยครับ ) ซึ่งตรงจุดนี้ ก็จะเป็นการพัฒนาตัวตัวละครอีกจุดหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้คุณเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้น และแน่นอน ถ้าเราตายระหว่างทาง เราจะเสียค่าพลังทั้งหมดที่เก็บมา เหมือนกับ Bone powder เลย
   เรียกได้ว่าองค์ประกอบบางอย่าง ทำให้เราเหมือนได้เล่นเกมแนว Souls like เพียงแต่มันถูกนำเสนอในรูปแบบเกม 2D ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ คิดว่าคนที่ชอบเกมแนว Souls like ก็น่าจะสนุกกับเกมนี้ได้ไม่ยาก




   สำหรับเกมอินดี้เกมนี้ ผมใช้เวลาเล่นไปเกือบ 20 ชั่วโมง ( คาดว่าบางคนอาจจะเล่นจบเร็วกว่านี้ ) ตัวเกมนั้นไหลลื่น ไม่หน่วง ไม่กระตุก ไม่เคยเจอเกมหลุดหรือเด้งออกเลย เกมสามารถปรับปุ่มได้อิสระ ( ผมเล่นบนคีย์บอร์ดแล้วปรับปุ่มเอา ) จอย XBOX ก็ใช้ได้ครับ ( ไม่ได้ลองจอยของ PS เพราะผมไม่มี แต่คิดว่าน่าจะได้เหมือนกัน ) การปรับแต่งของตัวเกมมีไม่มาก แต่ก็เข้าใจได้ในส่วนนี้ของเกมอินดี้ ปัญหาเดียวที่ผมเจอเลยก็คือ ระหว่างที่ใช้ท่าโจมตีพิเศษใส่ศัตรูตอนอยู่ใกล้ ๆ กับกำแพง อยู่ ๆ ตัวละครของเราก็ทะลุไปอยู่อีกด้านหนึ่งของกำแพงซะงั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวระหว่างการเล่นครับ ไม่ส่งผลกระทบต่อการเล่นในยาวแต่อย่างใด

   ถึงแม้ว่าตัวเกมจะไม่มี New game plus และอาจจะไม่มีอะไรดึงดูดให้กลับมาเล่นซ้ำอีกรอบ แต่ถ้าใครอยากลองเล่นเกมแนว Souls like แล้วกลัวว่ามันจะยากเกินไป ลองหาเกมนี้มาเล่นดูก่อนก็ครับ ระบบพัฒนาตัวละครไม่ซับซ้อน การออกแบบฉากที่สวยงามสไตล์ Pixel art แถมความยาวของเกมก็ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป เพียงแค่นี้ มันก็คุ้มค่าที่คุณจะได้สัมผัสความเป็น Souls like ที่เข้าถึงได้ง่าย จากเกม ๆ นี้แน่นอน