ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ทำไมคนจึงใช้ผ้าขาวปิดหน้าผู้เสียชีวิต? เป็นไปได้ไหมที่พวกเขากลัวผีออกมาทำร้ายผู้คน? หรือเป็นเพียงเพื่อให้ผู้เสียชีวิตสงบสุข? หรือมีเหตุผลอื่น ๆ ?
ในสมัยโบราณ ภายหลังการเสียชีวิตของสมาชิกในครอบครัว จะคลุมผู้เสียชีวิตด้วยผ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เช่นเดียวกับคนสมัยใหม่ หลังความตาย ผู้คนจะคลุมศีรษะของผู้เสียชีวิตด้วยผ้าขาว ในโรงพยาบาลที่ห้องเก็บศพเต็มไปด้วยผู้เสียชีวิตที่คลุมด้วยผ้าขาว แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องทำเช่นนี้?
หลังผู้เสียชีวิต ญาติพี่น้องจะสัมผัสร่างกายผู้เสียชีวิต และบางคนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและให้ผู้เสียชีวิตนอนหงายหน้าขึ้น แล้วปิดหน้าด้วยกระดาษแผ่นบางๆ เหตุที่ปฎิบัติต่อผู้เสียชีวิตไม่เหมือนกัน ในสมัยโบราณ เนื่องจากการแพทย์ไม่ก้าวหน้ามากนักจึงง่ายที่จะเกิดการ “เสียชีวิตปลอม” แพทย์โบราณไม่มั่นใจในสถานการณ์นี้ในการตัดสินว่าเสียชีวิตจริงหรือไม่ เพื่อให้สามารถระบุว่าเสียชีวิตจริงได้ดียิ่งขึ้น จึงมีการพัฒนาวิธีการระบุสองวิธีต่อไปนี้
อย่างแรก ในห้องเก็บศพ ศพของผู้เสียชีวิตถูกนำไปวางไว้ในห้อง และหลังจากนั้นสองหรือสามวัน ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าเสียชีวิตหรือไม่
ประการที่สอง ปิดใบหน้าของผู้เสียชีวิตด้วยกระดาษสีเหลืองบาง ๆ เพราะถ้ายังมีชีวิตอยู่ เขาจะหายใจและด้วยเหตุนี้กระดาษสีเหลืองบางๆ ก็จะกระพรือ ต่อมาการพัฒนาของการแพทย์ก้าวหน้า ค่อยๆ เปลี่ยนจากกระดาษสีเหลืองบางๆ มาคลุมหน้าด้วยผ้าขาว และวิธีการระบุ 2 วิธีข้างต้นได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในเวลาต่อมา
หลังความตาย ผู้ตายส่วนใหญ่มีสีหน้าที่ไม่น่าดู ถึงเป็นญาติกันก็กลัวและตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าเช่นนั้น และในขณะเดียวกันก็จะเศร้า ดังนั้นผู้ตายจึงถูกคลุมด้วยผ้าขาว ทำไมต้องใช้ผ้าขาวเป็นผ้าอื่นได้ไหม? อย่างแรกเพราะผ้าขาวสะอาด และอันที่สองแสดงความเสียใจต่อผู้ตาย
หลายคนคิดว่า คนมีวิญญาณหลังความตาย นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณมีอยู่จริงหรือไม่ พวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้คนมีวิญญาณหลังความตาย เช่นเดียวกับ พวกเขาก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณไม่มีอยู่จริงหลังความตาย
คนที่ยังมีชีวิตอยากรู้ว่า ตายแล้วจะไปที่ไหน โลกหลังความตาย เหมือนกับโลกของคนเป็นหรือไม่?
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น