ทำไมคนไทยถึงไม่ชอบทำประกันชีวิต?

จากสถิติของสมาคมประกันชีวิต   ปี 2563  พบว่าประชากรชาวไทยมีสัดส่วนการถือกรมธรรม์อยู่ที่ 39.5 เปอร์เซ็นต์ หรือหมายความว่าคนไทย 100 คนมีคนที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตหรือมีประกันชีวิตอยู่เพียง 40 คนเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นที่มาว่า ทำไมคนไทยถึงไม่ชอบทำประกันชีวิต? ซึ่งขอสรุปคร่าวๆจากประสบการณ์ที่เคยได้ทำงานเกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิตดังนี้

  1. รายได้ไม่เพียงพอ ในข้อนี้ถือเป็นปัญหาหลักที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทำประกันชีวิตเพราะมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง และเป็นรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยกลุ่มประชาชนส่วนใหญ่ของคนไทยเป็นคนที่มีฐานะปานกลาง บางคนเป็นหัวหน้าครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายสูงจึงทำให้มองว่าการทำประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
  2. ซื้อไว้ไม่ได้ใช้ หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่าคนซื้อไม่ได้ใช้คนใช้ไม่ได้ซื้อ ซึ่งเป็นนิยามอย่างดีเกี่ยวกับประกันชีวิต เพราะว่าคนที่ทำประกันชีวิตคือคนที่มองว่าคนข้างหลังจะได้เงินก้อนหนึ่งเพื่อไปดำรงชีวิตอยู่เมื่อไม่มีเสาหลักของครอบครัวแล้ว ซึ่งมีน้อยคนนะที่จะคิดว่าการไม่อยู่แล้วแล้วทิ้งเงินไว้ 1 ก้อนจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบให้กับครอบครัวหรือคนที่อยู่ข้างหลัง คนส่วนใหญ่มองว่าถ้าอะไรที่ฉันไม่ได้ใช้นั่นก็คือสิ่งที่ไม่จำเป็นจึงทำให้ประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตัวเขาเองไม่ได้ใช้นั่นเอง
  3. กลัวโดนหลอก  กรณีนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเจอตัวแทนที่ไม่มีจริยธรรมมักมาหลอกขายประกันชีวิตไม่ตรงกับแบบประกันตามเล่มกรมธรรม์ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหรือทำให้ผู้ที่ซื้อกรมธรรม์หรือคนที่ทำประกันเสียผลประโยชน์และเกิดเป็นการพูดปากต่อปากขึ้น ทำให้ทัศนคติของคนส่วนใหญ่มองว่าประกันชีวิตคือสิ่งที่น่ากลัว
  4. เวลาเคลมยุ่งยาก ระยะเวลาในการเคลมเมื่อถึงเวลาไม่คาดฝันคือเวลาที่ผู้เอาประกันได้เสียชีวิตลง เวลาที่ทำเรื่องเคลมมักจะเสียเวลานานบางคนเสียเวลามากกว่า 90 วัน ทำให้เกิดปัญหาร้องเรียนขึ้นและพบเห็นได้บ่อยๆในสื่อโซเชียล โดยในความเป็นจริงการเคลมนั้นก็มีหลักการอยู่เช่นกันโดยเฉพาะกรมธรรม์ที่ถือมาไม่ถึง 2 ปี การตรวจสอบจากบริษัทก็จะใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากบริษัทประวิงการจ่ายสินไหมทดแทน เราสามารถเรียกร้องได้ที่ คปภ ประจำจังหวัดทั่วประเทศ

และนี่ก็คือเหตุผลหลักๆส่วนใหญ่ที่คนไทยไม่ชอบทำประกันชีวิต แต่จะบอกว่าทุกเหตุผลนั้นมีทางออกเสมอ เช่นเมื่อไหร่ได้ไม่พอเราอาจจะต้องประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาทำประกันชีวิตยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ต้องหาเงินเข้าบ้านเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบครอบครัว เป็นคนที่ทำงานคนเดียวในวันที่คุณไม่อยู่แล้วคุณต้องนึกถึงคนข้างหลังให้มากๆ

โรคภัยไข้เจ็บรวมถึงอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการทำประกันชีวิตจึงเป็นหนทางหนึ่งในการถ่ายโอนความเสี่ยงให้กับชีวิตคุณ 

 

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน

ชอบเขียนเรื่องท่องเที่ยวและเรื่องราวทั่วไปที่ได้พบเจอมา

บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์