วิธีคำนวณภาษีและลดหย่อนภาษีประจำปี 2565
ใกล้จะสิ้นปี 2564 แล้ว วันนี้ทางผู้เขียนนำวิธีคำนวณภาษีในปี 2564 เพื่อนำไปจ่ายในปี 2565 และวิธีลดหย่อนภาษีที่หลายคนอาจมองข้ามได้
สำหรับวิธีคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา มีดังนี้
1.นำรายได้ทั้งหมดในนั้นมารวมกัน
2.นำค่าลดหย่อนต่างๆมาลบออกจากรายได้ในข้อ 1. เช่น
-กรณีเป็นเงินที่ได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส เบี้ยเลี้ยง เงินที่ได้จากหน้าท่หรือตำแหน่ง หรือจากการรับทำงานให้ ค่าธรรมเนียม นายหน้า เป็นต้น สามารถหักค่าใช้จ่าย 50%ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
-หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
-หักค่าลดหย่อนภาษีอื่นๆ ตามที่เรามี (จะพูดหลังจากนี้)
3.หลังจากนำค่าลดหย่อนทั้งหมดมาลบออกจากรายได้แล้ว เงินที่เหลือจะเรียกว่า “เงิรได้สุทธิ” ซึ่งจะต้องนำเงินจำนวนนี้ไปคำนวนภาษี เพื่อเสียภาษีตามขั้นบันได 5-35% ดังนั้น
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา |
|
รายได้สุทธิต่อปี |
ฐานภาษีเงินได้ |
ไม่เกิน 150,000 บาท |
ยกเว้นภาษี |
300,001-300,000 บาท |
5% |
300,001-500,000 บาท |
10% |
500,001-750,000 บาท |
15% |
750,001-1,000,000 บาท |
20% |
1,000,000-2,000,000 บาท |
25% |
2,000,001-5,000,000 บาท |
30% |
5,000,000 บาทขึ้นไป |
35% |
สำหรับการลดหย่อยภาษีมีหลายช่องทาง มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1.ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล
จำนวน 60,000 บาท
เงื่อนไข
-ลดหย่อนภาษีได้ทันทีที่ยื่นแบบ
2.ค่าลดหย่อนจากคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้
จำนวน 60,000 บาท
เงื่อนไข
-สำหรับสามี-ภรรยาที่จดทะเบียนสมรส
-คู่สมรสต้องไม่มีเงินได้หรือมีเงินได้แต่เลือกนำมาคำนวณภาษีพร้อมกัน ไม่ได้แยกยื่นแบบ
3.ลดหย่อนบุตร
จำนวน ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวนบุตร)
เงื่อนไข
-หากเป็นบุตรตามกฎหมาย สามารถนำมาหักลดหย่อยได้ ไม่จำกัดจำนวนบุตร
-หากเป็นบุตรบุญธรรม สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 3 คน
-หากมีบุตรบุญธรรมและบุตรชอบด้วยกฎหมาย ให้นำบุตรชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดมาหักก่อน แล้วจึงนำบุตรบุญธรรมมาหัก รวมกันได้ไม่เกิน 3 คน ตามเงื่อนไขที่ 2
-กรณีบุตรชอบด้วยกฎหมายที่มีชีวิตอยู่รวมเป็นจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป จะนำบุตรบุญธรรมมาหักไม่ได้
4.ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป
จำนวน 30,000 บาทต่อคน
เงื่อนไข
-ต้องเป็นบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปที่คลอดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป
-ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
-นับลำดับของบุตรทุกคน ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม
5.ค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร
จำนวน หักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี
เงื่อนไข
-ต้องเป็นค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรในช่วง 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2564
-กรณีคลอดบุตรแฝด สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 60,000 บาท
-สามีสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีค่าคลอดบุตรได้ไม่เกิน 60,000 บาท หากภรรยาไม่มีเงินได้
6.ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา-มารดา
จำนวน ลดหย่อนจากบิดา-มารดา (ตัวเอง) และบิดา-มารดาคู่สมรส ได้คนละ 30,000 บาท
เงื่อนไข
-บิดา-มารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้ในภาษีในปีภาษีนั้นไม่เกิน 30,000 บาท
-หากเป็นบิดา-มารดาของคู่สมรส จะใช้ลดหย่อนภาษีได้ก็ต่อเมื่อคู่สมรสต้องไม่มีรายได้
-บิดา-มารดาออกหนังสือรับรองเลี้ยงดู (ลย.03) ให้กับบุตรที่ขอลดหย่อนภาษีด้วย
-หากมีลูกหลายคน สามารถใช้สิทธิ์ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
7.ค่าอุปการะคนพิการหรือคนทุพพลภาพ
จำนวน 60,000 บาทต่อคน
เงื่อนไข
-ต้องเป็นผู้ที่ดูแลคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต
-ผู้พิการต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือเป็นคนทุพพลภาพที่มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
ยังมีการลดหย่อนภาษีในรูปแบบ ประกันชีวิต การออมและการลงทุน รวมถึงการลดหย่อนภาษีในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มเงินบริจาค โดยจะลดหย่อนภาษีได้จำนวนเงินเท่าไหร่และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง รอติดตามได้ในบทความต่อไปนะคะ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น