กฎกติใหม่ใน Premier League ฤดูกาล 2021 - 2022

Premier League ฤดูกาล 2021- 2022 ดำเนินมาถึงนัดสัปดาห์ที่ 6 ของฤดูกาลเเล้ว เราจะสังเกตได้ว่ามีการเปลี่ยนเเปลงของกฏบางอย่างเล็กน้อย ทั้งในเรื่องของกฏการล้ำหน้า กฏเเฮนด์บอล ซึ่งกฏเหล่านี้สามารถสร้างความเเตกต่างในเกมได้เลย อีกทั้งยังมีระบบ VAR ที่ทำการชี้ขาดจังหว่ะปัญหาต่างๆอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าในฤดูกาลนี้มีกฏใดที่มีความเปลี่ยนเเปลงไปบ้างในฤดูกาลนี้

- กฏล้ำหน้ารูปเเบบใหม่

โดยปกติเเล้วการล้ำหน้าจะวัดกันด้วยสายตาของผู้ตัดสินริมเส้น เเม้เพียงเสี้ยวเดียวของร่างกายของผู้เล่นทีมบุกล้ำผู้เล่นฝ่ายป้องกันคนสุดท้ายก็จะเป็นการล้ำหน้าทันที เเต่ในฤดูกาลใหม่นี้ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เส้นล้ำหน้าในจังหวะ VAR นั้นหนาขึ้น จากปกติขนาด 1 มิลลิเมตร เป็น 5 เซนติเมตรให้เหมือนกับในศึก Euro 2020 เเละการล้ำหน้าจะวัดจากส่วน "ใต้รักเเร้" ของผู้เล่นลงไป ทำให้บริเวณเเขนของผู้เล่นทั้งหมดนั้นไม่ใช่การล้ำหน้าอีกต่อไป เพื่อป้องกันการตัดสินลูกล้ำหน้าจากเพียงเสี้ยวหนึ่งของร่างกาย

 

  - กฏเเฮนด์บอลที่เปลี่ยนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เราเข้าใจกันว่าหากลูกบอลนั้นไปถูกเเขนของผู้เล่น จังหว่ะนั้นจะถูกนับเป็นเเฮนด์บอลทันที ซึ่งถ้าหากผู้เล่นนั้นไม่ได้ตั้งใจหล่ะ เราจะวัดกันยังไง? 

ทางองค์กร IFAB องค์กรสหพันธ์กีฬานานาชาติอธิบายไว้ว่า หากจังหว่ะนั้นผู้เล่นตัวใหญ่ขึ้นโดยเเขนทั้ง 2 ข้างนั้นเเนบชิดกับตัวจะถือว่าไม่เป็นเเฮนด์บอล อีกทั้งหัวไหล่จะไม่นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของเเขนเเล้ว เเต่ทว่าทำไมจังหว่ะของ Reece James ในเกมที่พบกับลิเวอร์พูลถึงไม่โดนใบเเดงหล่ะ? 

เนื่องด้วยในจังหว่ะนั้นตัวของ Reece James เองอยู่หน้าประตูซึ่งถือว่าเป็นจังหว่ะอันตรายที่จะชี้ขาดถึงประตู โดยที่ตัวของเขาเองเเม้จะไม่ได้พยายามที่จะใช้มือในการสกัดกั้นบอลเเต่อย่างใด เเต่ในกฏใหม่นั้นระบุไว้ว่า "ในจังหว่ะอันตรายนั้น หากผู้เล่นทำให้ตัวใหญ่ขึ้นโดยที่พยายามจะกางเเขนของตัวเองออกไป เเละนั่นเสี่ยงที่จะโดนเข้ากับลูกบอล เเม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม จะถือว่าจังหว่ะนั้นฟาวล์" นั่นทำให้ Reech James โดนใบเเดง เเถมยังเสียจุดโทษอีกด้วย เเต่ในความคิดผมเเล้วผมว่าใบเเดงนั้นมากไป อาจจะโดนเเค่ใบเหลือง เเละให้จุดโทษ เเต่ด้วยดุลยพินิจของกรรมการในขณะนั้นอาจจะมองว่าเขานั้นตั้งใจที่จะป้องกันประตูด้วยมือ จึงตัดสินไปเช่นนั้น

 

- การให้จุดโทษ

สถิติจุดโทษในฤดูกาลที่ผ่านมาได้ทำลายสถิติเก่่าไปเสียหมดด้วยจำนวนทั้งสิ้น 125 ประตู ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ นั่นจึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนกฏใหม่เพื่อป้องกันการให้จุดโทษจากจังหว่ะเข้าปะทะเล็กน้อยในกรอบเขตโทษกลายเป็นจุดโทษ ซึ่งทำให้นักเตะจอมพุ่งล้มเซ็งกันไปตามๆกัน เเต่ถือว่าเป็นข้อดีที่เราจะไม่เห็นการให้จุดโทษเเบบง่ายๆมากเกินไป

อนึ่งอีกข้อนึงคือ ผู้ตัดสินสามารถยกเลิกจุดโทษได้ ถ้าหากจังหว่ะนั้นไม่ชัดเจน เเตกต่างจากในอดีตที่ไม่สามารถกลับคำตัดสินได้

 

- การซ้อมลูกโหม่งที่เปลี่ยนไป

ได้มีการวิจัยมาเเล้วว่านักฟุตบอลมีโอกาสสูงมากกว่าคนปกติทั่วไปถึง 5 เท่าที่จะเกิดอาการสมองเสื่อม เนื่องด้วยพวกเขานั้นต้องฝึกซ้อมลูกโหม่งเป็นจำนวนมากใน 1 สัปดาห์ ทางลีกจึงมีข้อบังคับใหม่ การซ้อมลูกโหม่งจากระยะ 35 เมตร อาทิลูกตั้งเตะจากฟรีคิก ลูกเตะมุม จะถูกบังคับให้ไม่เกิน 10 ลูกต่อสัปดาห์  เพื่อป้องกันผลกระทบของอาการสมองเสื่อมเร็วของนักเตะ โดยกฏนี้จะบังคับใช้ทั่วประเทศอังกฤษ รวมถึงทีมชาติอังกฤษด้วย  

 

- การเปลี่ยนตัวที่มากขึ้น

โดยปกติทางลีกจะให้มีผู้เล่นสำรองได้ทีมละ 7 คน เเต่ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาด ในฤดูกาลนี้จะสามารถเพิ่มไปได้อีก 2 คน เป็น 9 คน อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้เพิ่มอีก 2 คน จากเดิม 3 คน เเต่จะต้องเป็นผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือนทางสมอง เเต่ในฟุตบอลถ้วยสามารถเปลี่ยนได้ 5 คน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับบาดเจ็บจากอาการข้างต้น

 

กฏใหม่ที่มีการเปลี่ยนเเปลงนี้ได้มีการใช้ให้เห็นในจังหว่ะชี้ขาดหลายๆนัดมาเเล้ว ซึ่งถืิอว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับตัวนักเตะเเละผู้ชมได้มาก อีกทั้งยังทำให้ผู้ตัดสินนั้นตัดสินได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน
บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์