สวัสดีครับทุกคน จากตอนที่ 3 เราได้รู้จักสระตัวแรกในภาษาอังกฤษกันแล้ว นั่นคือตัว A นั่นเอง โดยสระตัวนี้มีทั้งเสียงสั้นและเสียงยาว เสียงสั้นคือ แอะ เสียงยาวคือ เอ
วันนี้เราจะมารู้จักสระตัวที่สองกันนะครับ นั่นคือตัว E, e ตัว อี ก็มีทั้งเสียงสั้นและเสียงยาวเหมือนกัน
1. E เสียงสั้น – ในคำที่มีสระเป็นตัว E ตัวเดียว เสียงสระจะเป็นเสียงสั้น คือ เอะ ... พูดตามนะครับ อี เอะ, เอะ เอะ เอะ ตัวอย่างคำ BED เราจะแยกออกเสียงทีละตัว B เบอะ พูดตามนะครับ บี เบอะ , เบอะ เบอะ เบอะ ต่อไปตัว E, อี เอะ , เอะ เอะ เอะ และตัวสะกด D เด้อะ พูดตามนะครับ ดี เด้อะ, เด้อะ เด้อะ เด้อะ ---- ดีมากครับ เรารู้จักเสียงของแต่ละตัวแล้ว ต่อไป เราจะสะกดทั้งคำกันเลย
BED เบอะ เอะ เด้อะ เบ้ด --- อีก 2 ครั้งครับ เบอะ เอะ เด้อะ เบ้ด, เบอะ เอะ เด้อะ เบ้ด
ลองอีกคำนะครับ TEN เสียงของ T คือ เท่อะ พูดตามนะครับ ที เท่อะ, เท่อะ เท่อะ เท่อะ และเสียงของ N คือ เน่อะ พูดตามนะครับ เอ็น เน่อะ, เน่อะ เน่อะ เน่อะ เอาล่ะ สะกดคำนี้กันเลยครับ TEN เท่อะ เอะ เน่อะ เทน --- อีก 2 ครั้งครับ เท่อะ เอะ เน่อะ เทน, เท่อะ เอะ เน่อะ เทน..... เยี่ยมมากครับ
2. E เสียงยาว – ในคำที่มีสระตัวอื่นอยู่กับ E ด้วย โดย E อยู่ด้านหน้า เสียงของ E จะเป็นสระเสียงยาว คือเสียง อี และสระตัวที่สองเราจะไม่ออกเสียงของมัน เพราะมันรวมกับ E เป็นเสียง อี ไปแล้ว ตัวอย่างคำ BEAD -- เรารู้จักเสียงของแต่ละตัวแล้ว ต่อไป เราจะสะกดทั้งคำกันเลย เบอะ อี เด้อะ บี้ด --- อีก 2 ครั้งครับ เบอะ อี เด้อะ บี้ด, เบอะ อี เด้อะ บีด .... เก่งครับ
ลองอีกคำนะครับ TEEN เรารู้จักเสียงของแต่ละตัวแล้ว ต่อไปเราจะสะกดทั้งคำกันเลย เท่อะ อี เน่อะ ทีน --- อีก 2 ครั้งครับ เท่อะ อี เน่อะ ทีน, เท่อะ อี เน่อะ ทีน ... เยี่ยมมากครับ
--- โปรดติดตามสระตัวต่อไปในตอนที่ 5 นะครับ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น