ปาฎิหาริย์ที่ชื่อความรัก

หากวันหนึ่งคุณได้รับแจ้งจากแพทย์ว่า คนที่คุณรักอยู่ในอาการโคม่า ไม่สามารถรับรู้หรือโต้ตอบได้ และโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาขึ้นกับปาฎิหาริย์เท่านั้น และถ้าไม่มีปาฎิหาริย์ เขาหรือเธอก็จะอยู่สภาพผักแบบนี้ตลอดไป คุณจะรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร คุณจะทำเหมือนกับผู้ชายสองคนนี้หรือไม่ แอนดริว เรย์ และจาง ยู หัว ชายทั้งสองผู้เผชิญเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดกับภรรยาสุดที่รัก เขาทั้งสองคนอยู่คนละทวีป เหตุการณ์เกิดขึ้นคนละช่วงเวลา เรื่องราวของแอนดริว เรย์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2007 เมื่อภรรยาของเขา (เอมม่า เรย์)  หญิงสาววัย 32 ปี ที่เพิ่งคลอดลูกชายคนเล็กได้เพียง 10 วัน มีอาการหยุดหายใจกะทันกันด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือ Heart Attack ขณะที่เขาและเธอกำลังเลือกซื้อเครื่องใช้เด็กอ่อนให้กับลูกชายของพวกเขาในห้างสรรพสินค้า แอนดริว สามารถยื้อชีวิตของเอมม่าไว้ได้จากการปั๊มหัวใจสลับกับการผายปอดได้สำเร็จก่อนส่งถึงมือคุณหมอ แต่เอมม่าก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เพราะสมองขาดออกซิเจนในช่วงที่หัวใจหยุดเต้น เอมม่ากลายเป็น “เจ้าหญิงนิทรา” หรืออยู่ใน “สภาพผัก” (Vegetative State) ทันที แพทย์ทำได้เพียงประคองอาการไว้เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องรอ “ปาฎิหาริย์” แอนดริว ใช้ทุกนาทีที่มี ส่งความรักและกำลังใจ ให้กับเอมม่า ทั้งพูดคุย จับมือและโอบกอด อัดเสียงร้องไห้ของลูกชายคนเล็ก และเสียงร้องเรียกแม่ของลูกสาวคนโต นำมาเปิดให้เอมม่าฟังอยู่บ่อยๆ เวลาผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ เอมม่ายังคงนอนนิ่ง จนแอนดริว ได้ร้องไห้ออกมา พร้อมกับพูดตัดพ้อต่างๆ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “เอมม่า ถ้าเธอได้ยินฉัน เธอช่วยจูบแก้มฉันสักทีได้ไหม” และแล้วปาฎิหารย์ก็เกิดขึ้น เมื่อไม่กี่นาที่ต่อมา เอมม่าขยับศีรษะช้าๆ แล้วค่อยๆหันมาหาแอนดริว ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากจูบที่แก้มของสามีเบาๆ ตามคำขอร้องของเขา หลังจากตื่นขึ้นมา เอมม่าก็ยังคงต้องเข้ารับการรักษา เพื่อฟื้นฟูสมอง พร้อมกับทำกายภาพบำบัดอีกไม่ต่ำกว่าสองปี จึงสามรถกลับมาทำหน้าที่แม่และภรรยาได้อีกครั้ง แต่อย่างน้อยที่สุด “ปาฎิหาริย์ที่ชื่อความรัก” ทั้งจากสามีและลูกๆก็ทำให้เอมม่าตื่นขึ้นมาได้จริงๆ

 อีกหนึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นที่มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 1998  จาง ยู หัว ได้พาภรรยาของเขา ซอง ยูฮวน ที่กำลังป่วยหนักไปรักษาที่โรงพยาบาลเล็กๆ ในซานตง แต่ได้เกิดความผิดพลาดระหว่างฉีดยา ทำให้ซองเกิดช็อก หัวใจหยุดเต้น ตามด้วยภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราวทำให้ซองกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราในทันที  แม้จางจะมีฐานะไม่ดีนัก แต่จางก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักษาภรรยาของเขาให้ดีที่สุด เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มี และขายทรัพย์สินต่างๆ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาซอง จนเวลาผ่านไป 4 ปี ซองก็ยังนอนนิ่งไม่รับรู้สิ่งใด จางตัดสินใจพาซองกลับบ้านเพื่อดูแลรักษาตามวิธีการของเขา โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่บอกให้จางเลิกหวัง เลิกพยายาม วิธีการรักษาของจางคือ การพูดคุย หยอกล้อ เล่าข่าวสาร ร้องเพลง และเล่นดนตรีให้ซองฟังเหมือนเมื่อครั้งที่เธอยังปกติ จนเวลาผ่านไป 6 ปี นับตั้งแรกที่เขาพาเธอกลับบ้าน ปาฎิหาริย์ก็เกิดขึ้น ระหว่างที่จางอุ้มซองไว้ในอ้อมแขนและร้องเพลงให้ฟัง จู่ๆ น้ำตาของซองก็ไหลออกมา นั่นทำให้จางมั่นใจว่า “เธอเริ่มดีขึ้นจริงๆ” เขามุ่งมั่นดูแลซองด้วยวิธีการของเขาต่อไป อีกสองปีต่อมาซองเริ่มทำปากขมุบขมิบก่อนจะส่งเสียงพึมพำออกมาเบาๆ และอีกไม่กี่เดือนต่อมา ซองก็ตื่นจากการนอนหลับที่ยาวนานถึง 11 ปี ซอง ยูฮวนต้องทำการยภาพบำบัดอย่างน้อยสองถึงสามปีจึงได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ และเพื่อตอบแทนปาฎิหารย์แห่งความรัก ที่จางมอบให้เธอตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ด้วยการตั้งใจจะมีลูกกกับจาง ซึ่งจางไม่เห็นด้วย แต่ซองยังยืนยันคำเดิม ปัจจุบัน ซองยูฮวน มีสุขภาพแข็งแรงและเธอมีลูกสาวกับจาง ยูหัว ตามที่ตั้งใจไว้และลูกสาวของพวกเขาก็มีสุขภาพที่แข็งแรงเช่นกัน

จากเรื่องราวของสองครอบครัวนี้เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า “ปาฎิหาริย์ที่ชื่อความรัก” มีอยู่จริง และอานุภาพของมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราคิด ขอจงเชื่อใน “ปาฎิหาริย์ที่ชื่อความรัก”

แหล่งอ้างอิง : นิตยสาร Secret  ปีที่ 5 ฉบับที่ 111 ( 10 กุมภาพันธื 2556)