Work from Home หรือ WFH คือ การที่บริษัทมอบหมายงานให้พนักงานนำงานไปทำที่บ้านหรือพื้นที่ส่วนตัว โดยมีนัดหมายประชุมที่บริษัทประจำเดือน หรือการนำระบบประชุมทางไกลผ่านจออย่าง Video Conference โดยไม่จำเป็นต้องให้พนักงานเดินทางมาที่ออฟฟิศ ถือเป็นวิธียอดนิยมที่ได้ทั้งความคืบหน้าของงาน แถมยังประหยัดเวลาและค่าเดินทางอีกด้วย

                อย่างไรก็ตาม การทำงานรูปแบบนี้ มีบางกรณีที่เป็นปัญหาให้กับพนักงานออฟฟิศ ยกตัวอย่างสภาพแวดล้อมในบ้านที่ไม่เหมาะสมกับ ปัญหาของอุปกรณ์ที่ไม่ดีเท่าอุปกรณ์สำนักงาน อินเทอร์เน็ตมีปัญหา เป็นต้น ในวันนี้ผู้เขียนจึงขอนำเสนอ 3 เคล็ดลับที่ทำให้ Work from Home ในสถานการณ์ Covid-19 เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

      Work from Home โดยมีประสิทธิภาพในสามข้อ ง่าย และไม่ยุ่งยาก

1.ลงทุนกับสถานที่ที่เราใช้ทำงาน

                หัวใจสำคัญที่สุด คือ สถานที่ เพราะเราต้องใช้เวลาส่วนใหญ่กับโต๊ะทำงานตลอด สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกคือ ความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูให้เรียบร้อย โดยเฉพาะพื้นที่สำหรับ Video Conference ต้องสะอาดให้มากที่สุด และที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์ที่เราต้องใช้ในการทำงานว่ามีอะไรขาดเหลือ สัญญาณเน็ตแรงพอที่จะใช้ทำงานได้หรือไม่ ในปัจจุบันเครือข่ายสัญญาณต่าง ๆ ต่างออกโปรโมชันมากมายให้เลือกสรร แต่ไม่ว่าอย่างไร การลงทุนกับสถานที่ควรเป็นไปตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล อะไรที่ซ่อมได้ก็ซ่อม อะไรที่ซื้อใหม่ก็ซื้อ

2.พูดคุยตกลงสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับ Work from home

                ปัญหาสุดคลาสสิคสำหรับบ้านที่พนักงานอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรียกใช้ให้เราทำงานจิปาถะ กินข้าว หรือเสียงเด็กร้องไห้ โดยเฉพาะเวลาที่เราเปิด Video Conference เพื่อประชุมงาน วิธีการแก้ปัญหาอย่างแรกคือ ควรอธิบายครอบครัวให้เข้าใจว่า Work from home ไม่ต่างจากการทำงานออฟฟิศเลย เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น วันเวลาเลิกงานยังคงเหมือนเดิม สำหรับเด็กเล็กก็ให้คนในครอบครัวหรือจ้างคนที่ไว้ใจได้มาดูแล และควรหลีกเลี่ยงการทำงานใกล้ชิดกับห้องที่มีเด็ก เพราะอาจจะทำให้เราเสียสมาธิจนโฟกัสกับงานไม่ได้

3.ดูแลสุขภาพตัวเอง อย่าโหมงานหนักเกินไป

                ต่อให้สถานที่หรือคนรอบข้างเป็นใจกับเรา แต่หากร่างกายของเราไม่พร้อม ทำให้งานไม่เดิน อาจจะเป็นเหตุให้มีปัญหากับบริษัทได้ ยิ่งพนักงานบางรายโดนอัดงานหนักกว่าปกติ สุขภาพของเราจึงต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลา ยิ่งจุดเด่นของ Work from home คือ ทำให้พนักงานมีเวลาทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทาง แต่ในขณะเดียวกัน โอกาสที่จะเกิด Office Syndrome จากการนั่งอยู่แต่กับที่ ก็มีมากขึ้นเช่นกัน  วิธีป้องกันคือ ปรับท่านั่งให้เหมาะสมตามหลักสรีระ  ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วบริหารร่างกาย หรือเวลาที่งานน้อยลงหรือช่วงเวลาพัก ก็ควรละสายตาจากหน้าจอ มองต้นไม้ใบเขียวหรือผนังว่าง เพื่อผ่อนคลายสายตาจากการทำงาน ไม่ควรทำงานไปกินข้าวไป เพราะนอกจากคีย์บอร์ดและเม้าส์จะสกปรกแล้ว การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด จะส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อาจจะทำให้เราเสียทั้งเงินรักษาตัวเองและเสียวันลาอันมีค่าไปด้วย

วิธีการรับมือกับปัจจัยภายนอก ที่รบกวนการ Work from home

                เคล็ดลับทั้งสามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น ถือว่าเป็นปัจจัยที่เราสามารถควบคุมได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม ซึ่งเป็นการรบกวนที่มาทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เช่น เขตมาซ่อมท่อประปา ข้างบ้านกำลังต่อเติม เผาขยะ หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านทำอาหารกลิ่นแรง นับว่าเป็นสารพัดเหตุผลที่ทำให้เรามีปัญหากับการทำงาน วิธีที่ทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็คือ การเจรจากับเพื่อนบ้านอย่างสุภาพ หรือถ้าไม่ได้สนิทกันก็อาจจะให้สมาชิกในครอบครัวพูดแทนก็ได้ ในกรณีที่เพื่อนบ้านไม่เข้าใจหรือเป็นการทำงานที่ไม่สามารถเจรจาได้ การเช่า Working space ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม อีกทั้งเป็นสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาให้ทำงานโดยเฉพาะ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าสถานที่และค่าอาหารว่างบ้างเล็กน้อย โดยต้องมั่นใจว่าสถานที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทางที่ดีควรเช็คกับทาง Social Media ของ Working space หรือข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะใช้บริการสถานที่

                จะเห็นได้ว่า การ Work from home เป็นการเปลี่ยนสถานที่การทำงานจากบริษัทมาเป็นบ้านก็จริง แต่ปัจจัยทั้งที่เราสามารถควบคุมได้และไม่ได้ก็ยังมีอยู่มากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น เคล็ดลับที่ผู้เขียนได้นำเสนอไป สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์อื่น เช่น การดูแลตัวเองระหว่างการทำงาน สุดท้ายนี้ ผู้เขียนคาดหวังอย่างยิ่งว่าโลกสามารถควบคุม Covid-19 ได้โดยไว เพื่อที่เราทุกคนสามารถที่จะกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขได้อีกครั้ง