ถ้าพูดถึง "กระเทียม"
เชื่อว่าทุกคนคงจะมีติดบ้าน ติดครัว กันทุกคนอยู่แล้วใช่ไหมครับแต่เชื่อว่า น้อยคนที่จะรู้จักประโยชน์ของกระเทียมอย่างแท้จริง เพราะว่าที่จริงแล้วกระเทียมไม่ได้มีไว้เพียงทำอาหารเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย วันนี้จึงผมจึงนำ 5 คุณประโยชน์ของกระเทียมมาให้ผู้อ่านได้รับรู้กัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ...
1.รักษาโรคหวัด
ในกระเทียมมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นถ้าหากเรารับประทานกระเทียมเป็นประจำร่างกายของเราก็จะมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อให้มีกำลังไปสู้กับโรคต่างๆ แต่ถ้าหากเราเป็นหวัด กระเทียมก็สามารถรักษาโรคหวัดได้ด้วย วิธีการก็คือหั่นกระเทียมเป็นแว่นๆ และนำไปแช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที และนำเอากากออก จิบเป็นชากระเทียมอุ่น ๆ ก็ดี แต่จะมีกลิ่นฉุุนของกระเทียมที่รุนแรงดั้งนั้นเราจะเติมน้ำผึ้งเข้าไปเพิ่มรสชาติก็ได้ กระเทียม สามารถรักษาโรคหวัดและยังสามารถป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วย
2.ไล่ยุงและแมลงสัตว์กัดต่อย
ผลการวิจัยของประเทศอินเดียพบว่า คนที่ทากระเทียมลงร่างกายของตัวเองไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ร่างกายส่วนอื่นๆ จะโดนยุงและแมลงสัตว์กัดต่อยรบกวนน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทากระเทียม เหตุผลหลักๆก็เพราะ กระเทียม มีกลิ่นฉุนค่อนข้างรุนแรง ยุงและแทลงสัตว์กัดต่อยจึงไม่ค่อยมารบกวน จึงมีการแนะนำให้ทำยากันยุง หรือ ยาทาป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อย ด้วยการผสมน้ำมันกระเทียม ปิโตรเลียมเจลเข้าด้วยกัน หรือจะทากระเทียมแบบ สด ๆ ลงบนแขนขา หรือร่างกายเพื่อป้องกันยุงและแมลงสัตว์กัดต่อย
3.ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง
เพราะว่ากระเทียม มีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นเมื่อเรานำยาทาแก้ปวดมานวดบริเวณที่เคล็ดขัดยอก ระบบไหลเวียนของเลือดก็จะทำการไหลเวียนได้ดี ทำให้บริเวณที่นวดยามีการทำปฏิกิริยาง่ายขึ้น จึงช่วยให้อาการเคล็ดขัดยอกหายเร็วขึ้น
4.แก้ปัญหาผมร่วง
ในกระเทียมมีสาร อัลลิซฺินและสารซัลเฟอร์อยู่ สามารถช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้ วิธีการคือ นำกระเทียมมาหั่นชิ้นบางๆ แและนำไปผสมกับน้ำมันออยล์ แล้วนำไปนวดบำรุงบนเส้นผมและหนังศีรษะ เส้นผมและหนังศีรษะก็จะแข็งแรงขึ้น
5.ต้านทานโรคมะเร็ง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ( NCI ) เผยผลวิจัยออกมาว่า กระเทียมมีคุณสมบัติต่อการต้านโรคมะเร็งเพราะว่าโรคมะเร็งเป็นโรคที่อาจทำให้เกิดเนื้องอกในร่างกาย แต่สารในกระเทียมสามารถออกฤทธิ์ต้านทานความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกได้
ก็จบไปแล้วนะครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ทุกท่านนะครับ ฝากป็นกำลังใจในการเขียนบทความต่อๆไปด้วยนะครับ ขอบคุณจากใจครับ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น