การข่มขืนคือการข่มขืนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้คนสวมใส่

เมื่อศาลเปรูส่งคำตัดสินในคดีข่มขืน ซึ่งทำให้ข้างในใจผมเกิดความขัดแย้งเป็นอย่างมาก...

ผู้พิพากษาตัดสินให้ผู้ต้องหาพ้นผิดและเหตุผลที่ให้มานั้น...มันเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

คดีนี้ได้รับการรายงานครั้งแรกโดยเหยื่อหญิงอายุ 20 ปีในปลายเดือนมกราคม 2019 และ..เพื่อความเป็นส่วนตัวเจ้าหน้าที่จะไม่เปิดเผยชื่อของเหยื่อ ในเวลานั้นหญิงสาวตอบรับคำเชิญของ Giancarlo Miguel Espinoza Ramos จำเลยชายวัย 22 ปีให้มาร่วมงานปาร์ตี้สังสรรค์

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้น...โดยไม่ทราบสาเหตุหญิงสาวหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏตัวบนเตียงในบ้านของ Giancarlo ซึ่งเป็นจำเลย หลังเกิดเหตุผู้หญิงคนนี้โทรหาตำรวจด้วยความโกรธโดยกล่าวหาว่า Giancarlo ข่มขืน ชายคนนี้ Giancarlo ผู้ต้องสงสัยกลับปฏิเสธ เมื่อเขาปรากฏตัวในศาลนอกจากนี้เขายังโต้ว่าผู้หญิงคนนั้นจงใจเรียกตำรวจเพื่อตอบโต้เขา โดยมีจุดประสงค์เพื่อใส่ร้ายและขู่กรรโชกเขา

--หลังจากการพิจารณาคดีนานกว่าหนึ่งปี--

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2020 ในที่สุดศาลเปรูก็ได้มีคำพิพากษาในคดีนี้โดยให้ปล่อยตัวจำเลยไป..

--เพราะเหยื่อสวมชุดชั้นในลูกไม้สีแดงเมื่อเธอไปร่วมงานปาร์ตี้! !---

ผู้พิพากษาทั้งสามคนที่ได้ทำคดีนี้ได้แก Ronald Anayhuaman Andia, Diana Jurado Espino และ Lucy Castro Chacaltana เชื่อว่าผู้หญิงจะสวมชุดชั้นในสีแดงเมื่อต้องการมีเซ็กส์เท่านั้น!

"โดยปกติแล้วจะใส่เฉพาะกางเกงในในสถานการณ์ที่สนิทสนม"

"นั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงสวมชุดชั้นในสีแดง ต้องการความประทับใจ ก็คือเธอพร้อมหรือเต็มใจที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย" สิ่งนี้ หลังการตัดสินไม่เพียงแต่เหยื่อที่ยอมรับไม่ได้ แต่ยังก่อให้เกิดความโกลาหลในเปรู สตรีชาวเปรูมาที่อาคารศาล Ica ซึ่งมีการตัดสินคดี และเดินประท้วงบนถนนครั้งแรกในลิมา

ผู้ประท้วงบางคนสวมชุดชั้นในสีแดง...ที่ขาเพื่อแสดงความสนับสนุนต่อผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ นอกจากนี้ยังมีรูปถ่ายของผู้พิพากษาทั้งสามที่เข้ารับฟังการพิจารณาคดีโดยเปิดเผยพร้อมกับชูสโลแกนเพื่อแสดงความไม่พอใจว่า "ฟังนะ(ไอ้)ผู้พิพากษาอย่าใช้กางเกงชั้นในของฉันเพื่อพิสูจน์การข่มขืน"

"ลูกไม้เป็นเพียงผ้าลูกไม้...มันไม่ได้ชี้นำทางเพศ"

เมื่อเผชิญกับการประท้วงของประชาชนในวันที่ 30 ตุลาคม เพียงวันเดียวหลังจากคำตัดสินของศาล กระทรวงกิจการสาธารณะของเปรูได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่าคำพิพากษาก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้องและเรียกร้องให้ศาลอื่นๆ "ให้มีท่าทีที่เป็นกลางมากยิ่งขึ้น" และขอมาทบทวนการสอบสวนคดีใหม่ แผนกยุติธรรมของเปรูสัญญาว่าจะสอบสวนผู้พิพากษาที่ก่อให้เกิดข้อพิพาทนี้ นอกจากนี้กระทรวงสตรีเปรู ยังให้การสนับสนุนคำให้การเหยื่อของคดีนี้และเชื่อว่าคำตัดสินก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ(ว่ะ)

“ ด้วยความช่วยเหลือจากอำนาจตุลาการที่ยุติธรรมเท่านั้นที่จะสามารถต่อสู้กับความรุนแรงต่อผู้หญิงได้อย่างแท้จริง”

เหยื่อได้รับอันตรายทางร่างกายและจิตใจแล้ว

ไม่ควรได้รับอันตรายเป็นครั้งที่สองอีกต่อไป...จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ไม่ควรได้รับอันตรายเป็นครั้งที่สามอีกต่อไป...จากขึ้นขาหยั่งของคณะแพทย์และพยาบาล

ไม่ควรได้รับอันตรายเป็นครั้งที่สี่อีกต่อไป...จากตอบคำถามของสหวิชาชีพ

ไม่ควรได้รับอันตรายเป็นครั้งที่ห้าอีกต่อไป...จากการตัดสินของศาล

และสุดท้ายได้แต่ดูผู้กระทำผิดรอดพ้นจากการลงโทษของกฎหมาย