แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 พร้อมเฉลย จำนวน 50 ข้อ

แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

พ.ศ.2562 พร้อมเฉลย จำนวน 50 ข้อ 

ข้อ 1.พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ให้ไว้ ณ วันที่ใด

ก. ณ  วันที่  9  มีนาคม พ.ศ. 2562

ข. ณ  วันที่  9  เมษายน พ.ศ. 2562

ค. ณ  วันที่  15  มีนาคม พ.ศ. 2562

ง. ณ  วันที่  15   เมษายน  พ.ศ. 2562

ตอบ  ก. ณ  วันที่  9  มีนาคม พ.ศ. 2562

ข้อ 2.พระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยค าแนะน าและยินยอมของใคร

ก.สภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ข.สภาองค์การบริหารส่วนตำบล

ค.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ง. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ  ค.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ข้อ 3.การจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่เมื่อใด

ก. เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563

ข. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ค.เมื่อวันที่ 1 มีนาคม  พ.ศ. 2563

ง.เมื่อวันที่ 1 เมษายน   พ.ศ. 2563

ตอบ  ก. เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563

ข้อ 4. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ  ภาษี

ก.เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง

ข. พื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ำด้วย

ค. พื้นดิน และให้หมายความรวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ำด้วย

ง. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ตอบ  ง. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ข้อ 5. ข้อใดกล่างถูกต้องเกี่ยวกับ  สิ่งปลูกสร้าง

ก.ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ห้องชุดแล้ว

ข. พื้นดิน และให้หมายความรวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ำด้วย

ค.โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ที่บุคคล อาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้

ง. ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ห้องชุดแล้ว

ตอบ  ค.โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ที่บุคคล อาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้

ช้อ 6. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ  ห้องชุด

ก.ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ห้องชุดแล้ว

ข. พื้นดิน และให้หมายความรวมถึงพื้นที่ที่เป็นภูเขาหรือที่มีน้ำด้วย

ค.โรงเรือน อาคาร ตึก หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ที่บุคคล อาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้

ง. ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ห้องชุดแล้ว

ตอบ   ง. ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่ได้ออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ ห้องชุดแล้ว

ข้อ 7. ข้อใดไม่ใช่  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ก. องค์การบริหารส่วนต าบล

ข. เทศบาล

ค.กรุงเทพมหานคร

ง. เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ตอบ  ง. เขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ข้อ 8. ข้อใดหมายถึง  ผู้บริหารท้องถิ่น

ก.นายกองค์การบริหารส่วนตำบล

ข.นายกเมืองพัทยา

ค.ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ง.ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ตอบ ค.ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ข้อ 9. ข้อใดหมายถึง พนักงานประเมิน

ก.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ประเมินภาษี

ข.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่รับชำระภาษี และเร่งรัด การชำระภาษี

ค.คณะกรรมการกำหนด ราคาประเมินทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

ง.คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดตามประมวล กฎหมายที่ดิน

ตอบ  ก.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ประเมินภาษี

ข้อ 10. ข้อใดหมายถึง  ปี

ก. ปีงบประมาณ

ข. ปีภาษี

ค. ปีปฏิทิน

ง. งบรายปี

ตอบ  ค. ปีปฏิทิน

ข้อ 11. ข้อใดหมายถึง  พนักงานเก็บภาษี

ก.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ประเมินภาษี

ข.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่รับชำระภาษี และเร่งรัด การชำระภาษี

ค.คณะกรรมการกำหนด ราคาประเมินทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน

ง.คณะอนุกรรมการประจ าจังหวัดตามประมวล กฎหมายที่ดิน

ตอบ ข.ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่รับชำระภาษี และเร่งรัด การชำระภาษี

ข้อ 12.ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมายให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ รับชำระภาษีแทนตามมาตรา ๕๐ ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐนั้นอาจได้รับส่วนลดหรือค่าใช้จ่าย ในการจัดเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินร้อยเท่าใดของภาษีที่รับชำระ

ก.ร้อยละหนึ่งของภาษีที่รับชำระ

ข.ร้อยละสองของภาษีที่รับชำระ

ค.ร้อยละสามของภาษีที่รับชำระ

ง.ร้อยละสี่ของภาษีที่รับชำระ

ตอบ  ค.ร้อยละสามของภาษีที่รับชำระ

ข้อ 13.การกำหนดเวลาการชำระภาษีหรือแจ้งรายการต่าง ๆ หรือกำหนดเวลาการคัดค้าน การประเมินภาษีตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ถ้าผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดเวลาดังกล่าว มีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถจะปฏิบัติตามกำหนดเวลาได้ ต้องดำเนินการอย่างไร

ก. ให้ยื่นคำร้องขอขยายเวลา

ข.ให้ยื่นขอเลื่อนกำหนดเวลาก่อน

ค.ให้ยื่นคำร้องขอขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาก่อน

ง.ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ  ค.ให้ยื่นคำร้องขอขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาก่อน

ข้อ 14. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ  คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง

ก.ปลัดกระทรวงการคลัง

ข.ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ค.ปลัดองค์กรปกครอง

ง.ผู้อำนวยการส านักงานเศรษฐกิจการคลัง

ตอบ  ค.ปลัดองค์กรปกครอง

ข้อ 15.ข้อใดไม่ใช่ หน้าที่และอำนาจและหน้าที่ของ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง

ก.วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตามมาตรา ๒๓ วรรคสาม และตามที่กระทรวงการคลัง หรือกรุงเทพมหานครร้องขอ

ข.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการวินิจฉัย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ค. กำหนดเวลาการช าระภาษ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ง.ให้คำปรึกษาหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ กับคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย หรือ กรุงเทพมหานคร

ตอบ  ค. กำหนดเวลาการช าระภาษ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ข้อ 16. ก่อนที่จะดำเนินการส ารวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้ผู้บริหารท้องถิ่นประกาศ กำหนดระยะเวลาที่จะทำการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และแต่งตั้งพนักงานสำรวจเพื่อปฏิบัติการ ดังกล่าว โดยปิดประกาศล่วงหน้าไม่น้อยกว่ากี่วัน

ก. ไม่น้อยกว่า สิบวัน

ข. ไม่น้อยกว่า สิบห้าวัน

ค. ไม่น้อยกว่า ยี่สิบวัน

ง. ไม่น้อยกว่า ยี่สิบห้าวัน

ตอบ  ข. ไม่น้อยกว่า สิบห้าวัน

ข้อ 17. ในการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้พนักงานสำรวจมีอำนาจเข้าไปในที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างหรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้องในระหว่างเวลาใดถึงเวลาใด 

ก. เวลา 08:30 น.  ถึง  เวลา 16:30 น.

ข.เวลา 09:30 น.  ถึง  เวลา 17:30 น.

ค.ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก

ง. ตั้งแต่เข้า ถึง เย็น

ตอบ ค.ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก

ข้อ 18. เมื่อพนักงานสำรวจได้ดำเนินการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในเขตองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยต้องแสดงประเภท จำนวน ขนาดของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นแก่การประเมินภาษี ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย  ประกาศโดยใคร

ก.ปลัดกระทรวงมหาดไทย  ประกาศกำหนด

ข.คณะรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย  ประกาศกำหนด

ค. ตามคณะกรรมการกระทรวงมหาดไทย  ประกาศกำหนด

ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกำหนด

ตอบ ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกำหนด

 

ข้อ 19. จากข้อ 18. ให้ประกาศบัญชีดังกล่าว ณ สำนักงานหรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานที่อื่นด้วยตามที่เห็นสมควร ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เป็นเวลาไม่น้อยกี่วัน พร้อมทั้งให้จัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียภาษีแต่ละรายตามประกาศบัญชีดังกล่าว ให้ผู้เสียภาษีรายนั้นทราบด้วย

ก. ไม่น้อยกว่า สิบห้าวัน

ข. ไม่น้อยกว่า ยี่สิบห้าวัน

ค. ไม่น้อยกว่า สามสิบวัน

ง. ไม่น้อยกว่า สี่สิบห้าวัน

ตอบ ค. ไม่น้อยกว่า สามสิบวัน

ข้อ 20. ข้อใดคือฐานภาษีเพื่อการคำนวณภาษีของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง

ก.ที่ดิน  ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ

ข.สิ่งปลูกสร้าง  ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์สิ่งปลูกสร้างเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ

ค.สิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด  ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ

ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

ข้อ 21. ให้กรมธนารักษ์หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ แล้วแต่กรณี ส่งบัญชีกำหนด ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุดตามมาตรา ๓๕ ให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุดนั้นตั้งอยู่ใน เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายในกี่วัน นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ก. ภายใน 7 วัน  นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ข.ภายใน 15 วัน  นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ค.ภายใน 30 วัน  นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ง.ภายใน 45 วัน  นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ตอบ  ค.ภายใน 30 วัน  นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดประกาศ ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์

ข้อ 22.ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ  “การจัดเก็บอัตราภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง”

ก.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน ร้อยละศูนย์จุดหนึ่งห้าของฐานภาษี

ข.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดสาม ของฐานภาษี

ค.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก (๑) หรือ (๒) ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน ร้อยละหนึ่งจุดสองของฐานภาษี

ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

 

ข้อ 23. ในกรณีที่คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดไม่เห็นชอบกับอัตราภาษี ตามร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น  ให้ส่งความเห็นเกี่ยวกับอัตราภาษีคืนให้ใคร

ก.ผู้บริหารท้องถิ่น

ข.ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ค.นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ง.ผู้ว่าราชการจังหวัด

ตอบ  ก.ผู้บริหารท้องถิ่น

ข้อ 24.จากข้อ 23. ห้ส่งความเห็นเกี่ยวกับอัตราภาษีคืนผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อเสนอ สภาท้องถิ่นดำเนินการแก้ไขอัตราภาษีตามความเห็นของคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำ จังหวัด หรือพิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามให้แล้วเสร็จกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นเกี่ยวกับอัตราภาษีคืนจากคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด

ก. ภายใน 30 วัน

ข. ภายใน 45 วัน

ค. ภายใน  60 วัน

ง.ภายใน 120 วัน

ตอบ  ก. ภายใน 30 วัน

ข้อ 25. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จำเป็นในการจัดเก็บภาษีในแต่ละปี ณ สำนักงาน หรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วันที่ใด

ก. ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของปีนั้น

ข. ก่อนวันที่ 1 มีนาคม  ของปีนั้น

ค. ก่อนวันที่ 1 เมษายน ของปีนั้น

ง. ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน  ของปีนั้น

ตอบ  ก. ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของปีนั้น

ข้อ 26. ในกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้ประโยชน์ใน การประกอบเกษตรกรรมอยู่ภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษี ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นรวมกันในการคำนวณภาษีกี่บาท

 ก. ไม่เกิน สามสิบล้านบาท

ข.ไม่เกิน สี่สิบล้านบาท

ค.ไม่เกิน ห้าสิบล้านบาท

ง.ไม่เกิน หกสิบล้านบาท

ตอบ  ค.ไม่เกิน ห้าสิบล้านบาท

 

ข้อ 27. ในกรณีที่บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน และใช้สิ่งปลูกสร้าง ดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในวันที่ ๑ มกราคมของปีภาษีนั้น ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีไม่เกินกี่บาทบาท

ก. ไม่เกิน ห้าล้านบาท

ข.ไม่เกิน สิบล้านบาท

ค.ไม่เกิน สิบห้าล้านบาท

ง.ไม่เกิน ยี่สิบล้านบาท

ตอบ ข.ไม่เกิน สิบล้านบาท

ข้อ 28.ในกรณีที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษีเป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ให้เรียกเก็บภาษีสำหรับที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างในปีที่สี่ เพิ่มขึ้นจากอัตราภาษีที่จัดเก็บตามมาตรา ๓๗ (๔) ในอัตราเท่าไหร่

ก. อัตราร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง

ข.อัตราร้อยละศูนย์จุดสอง

ค.อัตราร้อยละศูนย์จุดสาม

ง.อัตราร้อยละศูนย์จุดสี่

ตอบ  ค.อัตราร้อยละศูนย์จุดสาม

ข้อ 29.ในแต่ละปี ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษี โดยส่ง แบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีตามมาตรา ๙ ภายในเดือนใด

ก.เดือน  มกราคม

ข.เดือน  กุมภาพันธ์

ค.เดือน  มีนาคม

ง.เดือน  เมษายน

ตอบ  ข.เดือน  กุมภาพันธ์

ข้อ 30. ในการประเมินภาษี ให้พนักงานประเมินมีอำนาจเรียกผู้เสียภาษีหรือบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดมาเพื่อตรวจสอบภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะต้องมีหนังสือแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่ากี่วัน

ก. ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

ข.ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน

ค.ไม่น้อยกว่าสามวัน

ง.ไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวัน

ตอบ  ก. ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

ข้อ 31. ให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนใด

ก.ภายในเดือน   มกราคม  ของทุกปี

ข.ภายในเดือ  กุมภาพันธ์  ของทุกปี

ค.ภายในเดือน  มีนาคม   ของทุกปี

ง.ภายในเดือน    เมษายน  ของทุกปี

ตอบ  ง.ภายในเดือน    เมษายน  ของทุกปี

ข้อ 32.เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับการชำระภาษี ผู้เสียภาษีอาจชำระภาษี โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือโดยการชำระผ่านธนาคารหรือโดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ การชำระผ่านธนาคารหรือโดยวิธีการอื่นใดนั้น ให้เป็นไปตามข้อใด

ก.ตามที่กระทรวงการคลัง ประกาศกำหนด

ข.ตามที่นายกรัฐมนตรี ประกาศกำหนด

ค.ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกำหนด

ง.ตามที่ปลัดกระทรวงการคลัง ประกาศกำหนด

ตอบ  ค.ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประกาศกำหนด

ข้อ 33. ในกรณีที่มีการชำระภาษีไว้เกินจำนวนที่จะต้องเสีย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหนังสือ แจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบภายในกี่วัน นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ก. ภายในเจ็ดวัน  นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ข.ภายในสิบห้าวัน  นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ค.ภายในยี่สิบวัน  นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ง.ภายในสามสิบวัน  นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ตอบ  ข.ภายในสิบห้าวัน  นับแต่วันที่ตรวจสอบพบ

ข้อ 34.ผู้ใดเสียภาษีโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียหรือเสียภาษีเกินกว่าจำนวนที่ต้องเสีย ไม่ว่าโดยความผิดพลาดของตนเองหรือจากการประเมินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นั้นมีสิทธิ ได้รับเงินคืนหรือไม่

ก.ไม่มีสิทธิ ได้รับเงินคืน

ข.มีสิทธิ ได้รับเงินคืน

ค.ข้อ ก. และ ข.ถูกต้อง

ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ข.มีสิทธิ ได้รับเงินคืน

ข้อ 35. การขอรับเงินคืน  ให้ยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด ภายในกี่ปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ก.ภายในหนึ่งปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ข.ภายในสองปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ค.ภายในสามปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ง.ภายในสี่ปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ตอบ  ค.ภายในสามปี  นับแต่วันที่ชำระภาษี

ข้อ 36. การลดภาษีสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบางประเภท เพื่อให้เหมาะสมกับ สภาพความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์ กิจการ หรือสภาพแห่งท้องที่ ให้กระทำได้โดยตราเป็น พระราชกฤษฎีกา แต่ต้องไม่เกินร้อยละเท่าใด ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ก.ไม่เกินร้อยละหกสิบ  ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ข.ไม่เกินร้อยละเจ็ดสิบ  ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ค.ไม่เกินร้อยละแปดสิบ  ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ง.ไม่เกินร้อยลเก้าสิบ  ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ตอบ  ง.ไม่เกินร้อยลเก้าสิบ  ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย

ข้อ 37.ภาษีที่มิได้ชำระภายในเวลาที่กำหนด ให้ถือเป็นภาษีตามข้อใด

ก.ภาษีตกค้าง

ข.ภาษีค้างชำระ

ค.ภาษียังไม่ได้ชำระ

ง.ภาษีรอชำระ

ตอบ  ข.ภาษีค้างชำระ

ข้อ 38.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งรายการภาษี ค้างชำระให้สำนักงานที่ดินหรือสำนักงานที่ดินสาขาภายในเดือนใด

ก.ภายในเดือน  กันายน  ของปี

ข.ภายในเดือน  ตุลาคม นของปี

ค.ภายในเดือนมิถุนายนของปี

ง.ภายในเดือน  พฤษภาคม ของปี

ตอบ  ค.ภายในเดือนมิถุนายนของปี

ข้อ 39.เพื่อประโยชน์ในการเร่งรัดภาษีค้างชำระ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษีที่มีภาษีค้างชำระภายในเดือนใด  เพื่อให้มาชำระภาษีค้างชำระ พร้อมทั้งเบี้ยปรับ

ก.  ภายในเดือน   มกราคม   ของปี

ข. ภายในเดือน   มีนาคม   ของปี

ค. ภายในเดือน   เมษายน   ของปี

ง.ภายในเดือน   พฤษภาคม  ของปี

ตอบ  ง.ภายในเดือน   พฤษภาคม  ของปี

 

ข้อ 40. ในกรณีที่มีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีไว้แล้ว ถ้าผู้เสียภาษีได้นำเงิน มาชำระค่าภาษีค้างชำระ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน โดยครบถ้วนก่อนการขายทอดตลาด ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีคำสั่งเพิกถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น และดำเนินการแจ้งการถอนการยึดหรืออายัดไปยังเจ้าพนักงานผู้ยึดหรืออายัดให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ก.ภาย สามวัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ข.ภาย ห้าวัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ค.ภาย เจ็ดวัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ง.ภาย เก้า วัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ตอบ  ข.ภาย ห้าวัน  นับแต่วันที่ชำระค่าภาษีที่ค้างชำระ

ข้อ 41. ในกรณีที่ผู้เสียภาษีมิได้ชำระภาษีภายในเวลาที่กำหนด ให้เสียเบี้ยปรับร้อยละใด  ของจำนวนภาษีค้างชำระ

ก. ร้อยละ ยี่สิบของจำนวนภาษีค้างชำระ

ข.ร้อยละ สามสิบของจำนวนภาษีค้างชำระ

ค.ร้อยละ สี่สิบของจำนวนภาษีค้างชำระ

ง.ร้อยละ ห้าสิบของจำนวนภาษีค้างชำระ

ตอบ  ค.ร้อยละ สี่สิบของจำนวนภาษีค้างชำระ

ข้อ 42.ผู้เสียภาษีผู้ใดได้รับแจ้งการประเมินภาษีตามมาตรา ๔๔ หรือมาตรา ๕๓ หรือการเรียกเก็บภาษีตามมาตรา ๖๑ แล้วเห็นว่า การประเมินภาษีหรือการเรียกเก็บภาษีนั้นไม่ถูกต้อง ให้มีสิทธิคัดค้านและขอให้ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาทบทวนการประเมินหรือการเรียกเก็บภาษีได้ โดยให้ ยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่น ภายในกี่วัน  นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินภาษีหรือการเรียกเก็บภาษี

 ก.ภายในสามสิบวัน 

ข.ภายในสี่สิบวัน 

ค.ภายในสี่สิบห้าวัน 

ง.ภายในหกสิบวัน 

ตอบ  ก.ภายในสามสิบวัน 

ข้อ 43.จากข้อ 42 ผู้บริหารท้องถิ่นต้องพิจารณาคำร้องของผู้เสียภาษี ให้แล้วเสร็จ  ภายในกี่วัน   นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง

ก.ภายในสามสิบวัน 

ข.ภายในสี่สิบวัน 

ค.ภายในสี่สิบห้าวัน 

ง.ภายในหกสิบวัน 

ตอบ  ง.ภายในหกสิบวัน 

ข้อ 44. ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาเห็นชอบกับคำร้องของผู้เสียภาษี ให้แจ้งจำนวนภาษี ที่จะต้องเสียเป็นหนังสือไปยังผู้เสียภาษี และให้ผู้เสียภาษีมารับชำระภาษีคืน  ภายในกี่วัน  นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

ก.ภายในสิบห้าวัน 

ข.ภายในสามสิบวัน 

ค.ภายในสี่สิบห้าวัน 

ง.ภายในหกสิบวัน 

ตอบ  ก.ภายในสิบห้าวัน 

ข้อ 45. ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาไม่เห็นชอบกับคำร้องของผู้เสียภาษี ให้ผู้เสียภาษีนั้น มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี โดยยื่นอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่น  ภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง

ก.ภายในสิบห้าวัน 

ข.ภายในสามสิบวัน 

ค.ภายในสี่สิบห้าวัน 

ง.ภายในหกสิบวัน 

ตอบ  ข.ภายในสามสิบวัน 

ข้อ 46. ข้อใดคือ  “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีประจำจังหวัด

ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข. นายกองค์กรปกครองท้องถิ่น

ค.นายกองค์การบริหารส่วนตำบล

ง.นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ตอบ  ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข้อ 47.ข้อใด  ไม่ใช่  คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีกรุงเทพมหานคร

ก.ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ข.ปลัดกรุงเทพมหานคร

ค.ปลัดนายกองค์กรปกครองท้องถิ่น

ง.อธิบดีกรมสรรพากร

ตอบ ค.ปลัดนายกองค์กรปกครองท้องถิ่น

ข้อ 48. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่ง ติดต่อกันได้ไม่เกิน กี่วาระ 

ก.สองวาระ

ข.สามวาระ

ค.สี่วาระ

ง.ห้าวาระ

ตอบ  ก.สองวาระ

ข้อ 49.  เพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ การประเมินภาษีมีอำนาจออกหนังสือเรียกผู้อุทธรณ์หรือบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง มาให้ถ้อยคำหรือ ให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานอื่นใดมาแสดงได้ โดยให้เวลาแก่บุคคลดังกล่าว  ไม่น้อยกว่ากี่วัน  นับแต่ วันที่ได้รับหนังสือเรียก

ก. ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน

ข. ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน

ค.ไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน

ง.ไม่น้อยกว่าสามวัน

ตอบ  ข. ไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน

ข้อ 50.ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมิน ภาษีตามมาตรา ๘๐ ต้องระวาง

ก.ไม่เกินหนึ่งพันบาท

ข.ไม่เกินหนึ่งพันห้าร้อยบาท

ค.ไม่เกินสองพันบาท

ง.ไม่เกินสองพันห้าร้อยบาท

ตอบ  ค.ไม่เกินสองพันบาท

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน
บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์