แนวข้อสอบ พ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5.พ.ศ. 2543

 

1. องค์การบริหารส่วนตำบลมีแหล่งรายได้มาจากที่ใดบ้าง

ก. รายได้จากภาษีอากร

ข. รายได้จากทรัพย์สิน

ค. รายได้จากกิจการพาณิชย์

ง. รายได้จากการสาธารณูปโภค

จ. ถูกทุกข้อ

ตอบ  จ. ถูกทุกข้อ

 

2. รายได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลจัดเก็บเองได้แก่

ก. ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือน ภาษีสุรา

ข. ภาษีป้าย อากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ค. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน อากรประทานบัตร

ง. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพราะ

จ. ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข

ตอบ  ข. ภาษีป้าย อากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

3. พ.ร.บ ภาษีโรงเรือนและที่ดินใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใด

ก.  1 มกราคม พ.ศ. 2547

ข.  1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547

ค.  1 มีนาคม พ.ศ. 2547

ง.   1 เมษายน พ.ศ. 2547

จ.   1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547

ตอบ  ง.   1 เมษายน พ.ศ. 2547

 

4. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน หมายถึงข้อใด

ก.  ภาษีที่เก็บจากค่าเช่านา

ข.  ภาษีที่เก็บจากผู้มีรายได้จากการทำการค้า

ค.  ภาษีที่เก็บจากการทำประโยชน์ในที่ดิน

ง.  ภาษีที่เก็บจากโรงเรือนและที่ดินที่ใช้ต่อเนื่อง

จ.  ถูกทั้งข้อ ข และข้อ ค

ตอบ  จ.  ถูกทั้งข้อ ข และข้อ ค

 

5. หน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินคือ

ก. องค์การบริหารส่วนตำบล

ข. เทศบาล

ค.  เมืองพัทยา

ง.  กรุงเทพมหานคร

จ.  ถูกทุกข้อ

ตอบ  จ.  ถูกทุกข้อ

 

6. ทรัพย์สินใดต่อไปนี้ ได้รับยกเว้นภาษีโรงเรือน

ก. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ข.  การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย

ค.  การสื่อสารแห่งประเทศไทย

ง.  อ่างเก็บน้ำเขื่อนต่างๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

จ.  ที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ตอบ  ง.  อ่างเก็บน้ำเขื่อนต่างๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต

 

7. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและทิ่ดินข้อใดถูกต้องที่สุด

ก. เจ้าของโรงเรือน

ข. เจ้าของที่ดิน

ค.  เจ้าของทรัพย์สิน

ง.  ผู้ครอบครองโรงเรือน

ตอบ  ก. เจ้าของโรงเรือน

 

8. กรณีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นกับที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องเป็นของคนละเจ้าของกันผู้มีหน้าที่เสียภาษีคือใคร

ก.  เจ้าของโรงเรือน

ข.  เจ้าของที่ดิน

ค.  ผู้ครอบครองโรงเรือน

ง.  ผู้ครอบครองที่ดิน

ตอบ  ก.  เจ้าของโรงเรือน

 

9. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีหน้าที่ต้องยื่นแบบพิมพ์เพื่อแสดงรายการทรัพย์สินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในเดือนใดของปี

ก.  มกราคม

ข.  กุมภาพันธ์

ค.  เมษายน

ง.  พฤษภาคม

ตอบ  ข.  กุมภาพันธ์

 

10. การยื่นแบบพิมพ์เพื่อแจ้งรายการทรัพย์สินเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินใช้แบบพิมพ์ใด

ก. ภ.ร.ด.1

ข.  ภ.ร.ด.2

ค.  ภ.ร.ด.3

ง.  ภ.ร.ด.4

ตอบ  ข.  ภ.ร.ด.2

 

11. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน มีหน้าที่จะต้องไปชำระภาษีภายในกี่วันนับแต่ได้รับการแจ้งการประเมิน

ก. ภายใน 7 วัน

ข.  ภายใน 15วัน

ค.  ภายใน 30วัน

ง.  ภายใน 60วัน

ตอบ  ค.  ภายใน 30วัน

 

12. ฐานที่ใช้ในการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน เรียกว่าอะไร

ก. ราคาปานกลางที่ดิน

ข.  ค่ารายปี

ค.  มูลค่าทรัพย์สิน

ง.  ค่าเช่า

ตอบ  ข.  ค่ารายปี

 

13. อัตราภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฏหมายกำหนดไว้อย่างไร

ก. ร้อยละ 10 ของค่ารายปี

ข.  ร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี

ค.  ร้อยละ 15 ของค่ารายปี

ง.  ร้อยละ 15.5 ของค่ารายปี

ตอบ  ข.  ร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี

 

14. หน่วยงานใดมีหน้าที่จัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน

ก. เทศบาล

ข.  อบต.

ค.  กทม.

ง.  กรมสรรพกร

ตอบ  ง.  กรมสรรพากร

 

15. คำว่า “ที่ดิน” ตาม พ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2547 ให้ความหมายรวมถึง

ก. สระน้ำ

ข.  บ่อน้ำ

ค.  ทางน้ำ

ง. ถูกทั้ง ก,ข,ค

ตอบ  ง. ถูกทั้ง ก,ข,ค

 

16. ใน พ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2547 คำว่า “บ้าน” ให้ความหมายรวมถึง

ก. ตึก เรือน

ข. เรือน กระท่อม

ค.  โรง ร้าน แพ

ง.  ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง.  ถูกทุกข้อ

 

17. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ข.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ค.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและพาณิชย์

ง.  ถูกเฉพาะข้อ 1.และ 2.

ตอบ  ง.  ถูกเฉพาะข้อ 1.และ 2.

 

18. ตามพระราชบัญญัตินี้ “ค่ารายปี” หมายความว่า

ก. จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นเก็บเงินได้ในปีหนึ่งๆ

ข. จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นเก็บเงินได้หลังหักภาษีแล้ว

ค.  จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ

ง.  จำนวนเงินซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินค่ารายได้ตามหลักของกรมที่ดิน

ตอบ  ค.  จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ

 

19. ผู้รับประเมินผู้ใด ไม่พอใจในการประเมินสามารถยื่นคำร้องต่อใคร

ก. สมุดเทศภิบาล

ข.  อธิบดีกรมสรรพากร

ค.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ง.  ถูกทั้งข้อ 1 และ 2

ตอบ  ง.  ถูกทั้งข้อ 1 และ 2

 

20. การชำระค่าภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ใครสามารถกำหนดให้มีการผ่อนชำระได้

ก. นายกรัฐมนตรี

ข.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ค.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ง.  อธิบดีกรมสรรพากร

ตอบ  ข.  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

21. ถ้าศาลตัดสินให้ลดค่าภาษี ให้คืนเงินส่วนที่ลดนั้นอย่างไร โดยไม่คิดค่าอย่างใด

ก.  ภายใน 1 เดือน โดยไม่คิดค่าอย่างใด

ข.  ภายใน 2 เดือน โดยไม่คิดค่าอย่างใด

ค.  ภายใน 3 เดือน โดยไม่คิดค่าอย่างใด

ง. ภายใน 4 เดือน โดยไม่คิดค่าอย่างใด

ตอบ  ค.  ภายใน 3 เดือน โดยไม่คิดค่าอย่างใด

 

22. เมื่ออธิบดีกรมสรรพากรหรือผู้แทน แล้วแต่กรณี มีอำนาจออกหมายเรียกผู้ร้องซักถาม โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างไร

ก. ไม่น้อยกว่า 5 วัน

ข.  ไม่น้อยกว่า 5 วัน

ค.  ไม่น้อยกว่า 5 วัน

ง.  ไม่น้อยกว่า 5 วัน

ตอบ  ข.  ไม่น้อยกว่า 5 วัน

 

23. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไปชำระต่อพนักงานเก็บภาษีภายในกี่วัน

ก. ภายใน 10 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

ข.  ภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

ค.  ภายใน 20 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

ง.  ภายใน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

ตอบ  ง.  ภายใน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

 

24. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเงินค่าภาษีทที่มิได้ชำระภายในเวลาที่ได้กำหนดในหมวด 2

ก. ถ้าชำระไม่เกินหนึ่งนับแต่วันพ้นกำหนด ไห้เพิ่มร้อยละ 2.5

ข.  ถ้าชำระไม่เกินหนึ่งนับแต่ไม่เกินสองเดือน ให้เพิ่มร้อยละ 5

ค.  ถ้าชำระเกินสองเดือนแต่ไม่เกินสามเดือน ให้เพิ่มร้อยละ 8

ง.  ถ้าชำระเกินสามเดือนแต่ไม่เกินสี่เดือน ให้เพิ่มร้อยละ 10

ตอบ  ค.  ถ้าชำระเกินสองเดือนแต่ไม่เกินสามเดือน ให้เพิ่มร้อยละ 8

 

25. ผู้ใดแจ้งความเท็จ หรือเจตนาละเลย โดยฉ้อโกง หรือโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะหลีกหลี่ยงการคำนวณค่ารายปีแห่งทรัพย์สินของตนตามที่ควร ท่านผู้นั้นมีความผิดอย่างไร

ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข.  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค.  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง.  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตอบ  ง.  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน
บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์