แนวข้อสอบ พ.ร.บ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8. พ.ศ. 2553

แนวข้อสอบ พ.ร.บ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 8. พ.ศ. 2553

1.พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน ให้ไว้เมื่อใด

ก.ให้ไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2534

ข.ให้ไว้ ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2534

ค.ให้ไว้ ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2534

ง.ให้ไว้ ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2534

ตอบ ก.ให้ไว้ ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2534

 

2.พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใด

ก. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข.พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ค.พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับหลัง 30 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ง. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับหลัง 30 วันตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ตอบ ก. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

3.พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฏหมายว่าด้วยระเบียบบริการราชการแผ่นดินโดยคำแนะนำและยินยอมของใคร

ก.คณะผู้ปกครองแผ่นดินสูงสุด

ข.คณะดุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ค.สถานิติบัญญัติ

ง. คณะนายทหารปฏิวัติสูงสุด

ตอบ ค.สถานิติบัญญัติ

 

4..ข้อใดกล่างถึงการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินได้ถูกต้อง

ก.ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น

ข.ส่วนรัฐมนตรี ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนนายอำเภอ ส่วนท้องถิ่น

ค.กรุงเทพ ภาค จังหวัด อำเภอ

ง. กรุงเทพ เมือง ประเทศราชปัตตานี

ตอบ ก.ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น

 

5.ข้อใดกล่างถึงการกระทำนั้น ต้องกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนโดยคำนึงถึงคุณภาพและปริมาณงานของส่วนราชการนั้นๆ

ก. การปกครองประเทศ

ข. การแบ่งราชการออกเป็นส่วนต่างๆ

ค. การกำหนดตำแหน่งส่วนราชการต่างๆ

ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ข. การแบ่งราชการออกเป็นส่วนต่างๆ

 

6.ใครเป็นผู้รักษาตามพระราชบัญญัตินี้

ก. ประธาน คสช.

ข.ประธานรัฐสภา

ค. นายกรัฐมนตรี

ง. รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง

ตอบ ค. นายกรัฐมนตรี

 

7. การจัดตั้ง การรวม หรือการโอนส่วนราชการ ให้ตราเป็นกฏหมายใด

ก. พระราชบัญญัติ

ข. กฏกระทรวง

ค. ประกาศส่วนราชการ

ง. พระราชกฤษฏีกา

ตอบ  ก. พระราชบัญญัติ 

 

8. การจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่หรือไม่ ถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้ตราเป็นกฏหมายใด

ก. พระราชบัญญัติ

ข. กฏกระทรวง

ค. ประกาศส่วนราชการ

ง.  พระราชกฤษฏีกา

ตอบ  ง.  พระราชกฤษฏีกา

 

9. การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการให้ตราเป็นกฏหมายใด

ก.  พระราชกฤษฏีกา

ข. พระราชบัญญัติ

ค. กฏกระทรวง

ง. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

ตอบ  ก.  พระราชกฤษฏีกา 

 

10. การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรมให้ออกเป็นกฏหมายใด

ก. ประกาศกระทรวง

ข. กฏกระทรวง

ค. พระราชกฤษฏีกา

ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ข. กฏกระทรวง 

 

11. ใครเป็นผู้ออกกฏกระทรวงแบ่งส่วนราชการ

ก. ปลัดกระทรวง

ข. นายกรัฐมนตรี

ค. รัฐมนตรีเจ้าสังกัด

ง. รองปลัดกระทรวงหัวหน้ากลุ่มภารกิจ

ตอบ  ค. รัฐมนตรีเจ้าสังกัด

 

12. สำนักนายกรัฐมนตรีใครเป็นผู้บังคับบัญชา

ก. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ข. นายกรัฐมนตรี

ค. ผบ.ทร.

ง. หัวหน้าสำนักนายกรัฐมนตรี

ตอบ  ข. นายกรัฐมนตรี

 

13. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ก. เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ

ข. เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ

ค. รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เป็นข้าราชการฝ่ายการเมือง

ง. ก. และ ค. ถูกต้อง

ตอบ  ก. เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ

 

14. ข้อใดต่อไปนี้ คือการจัดระเบียบราชการของกระทรวง

ก. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรม

ข. สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรม

ค. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรม

ง. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานเลขานุการกรม

ตอบ  ก. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรม

 

15. กระทรวงใดมีความจำเป็นจะต้องมีส่วนราชการเพื่อทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผน กำกับ เร่งรัด และติดตามนโยบายและแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวง จะจัดระเบียบบริหารราชการโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีสำนักนโยบายและแผนเป็นส่วนราชการภายใน ขึ้นตรงต่อใคร

ก. รัฐมนตรี

ข. ปลัดกระทรวง

ค. รองปลัดกระทรวงหัวหน้ากลุ่มภารกิจ

ง. นายกรัฐมนตรี

ตอบ  ก. รัฐมนตรี

 

16. หน่วยงานใดมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปของกระทรวง และราชการที่คณะรัฐมนตรีมิได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกรมใดกรมหนึ่งในสังกัดกระทรวงโดยเฉพาะ รวมทั้งกำกับและเร่งรัดการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงให้เป็นไปตามนโยบายแนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวง

ก. สำนักงานรัฐมนตรี

ข. สำนักงานปลัดกระทรวง

ค. ศูนย์บริการร่วมกระทรวง

ง. สำนักนโยบายและแผนกระทรวง

ตอบ  ข. สำนักงานปลัดกระทรวง

 

17. ราชการส่วนใดซึ่งโดยสภาพและปริมาณของานไม่เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นกระทรวงหรือทบวงซึ่งมีฐานะเทียบเท่ากรกะทรวง ให้จัดตั้งเป็น

ก. ทบวงสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกรือกระทรวง

ข. ศูนย์ราชการพิเศษ

ค. กรมพิเศษ

ง. ทบวง

ตอบ  ก. ทบวงสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกรือกระทรวง

 

18. ในกรณีที่สำนักนายกรัฐมนตรีหรือกระทรวงมีทบวงอยู่ในสังกัด และปริมาณ และคุณภาพของราชการในทบวงยังไม่สมควรจัดตั้งสำนักงานปลัดทบวง จะให้หน่วยงานใดทำหน้าที่สำนักงานปลัดทบวงด้วยก็ได้

ก. สำนักงานรัฐมนตรี

ข. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

ค. สำนักงานรองปลัดกระทรวงหัวหน้ากลุ่มภารกิจ

ง. กรมที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี

ตอบ  ข. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

 

19. ข้อใดคือการแบ่งส่วนราชการภายในกรม

ก. สำนักงานเลขานุการกรม กอง

ข. สำนักงานเลขานุการกรม กองฝ่าย

ค. สำนักงานเลขานุการกรม สำนัก กอง

ง. กอง ฝ่าย ส่วน

ตอบ  ก. สำนักงานเลขานุการกรม กอง

 

20. ส่วนราชการใดมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปของกรม และราชการที่มิได้แยกให้เป็นหน้าที่องกองหรือส่วนราชการใดโดยเฉพาะ

ก. สำนักงานเลขากนุการกรม

ข. กอง

ค. ส่วนตรวจสอบภายใน

ง. ก และ ค ถูกทุกข้อ

ตอบ ก. สำนักงานเลขากนุการกรม

 

21. กรกะทรวง ทบวง กรมใดมีเหตุพิเศษ จะตราเป็นกฏหมายใดแบ่งท้องที่ออกเป็นเขตเพื่อให้มีหัวหน้าส่วนราชการประจำเขตแล้วแต่จะเรียกชื่อเพื่อปฏิบัติงานทางวิชาการก็ได้

ก. กฏกระทรวง

ข. พระราชกฤษฏีกา

ค.พระราชบัญญัติ

ง. ประกาศกระทรวง

ตอบ  ข. พระราชกฤษฏีกา

 

22. ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ปลัดกระทรวงจะแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งใดเป็นผู้รักษาราชการแทน

ก. ผู้อำนวยการกอง

ข. ผู้อำนวนการสำนัก

ค. ผู้ตรวจราชการ

ง. อธิบดี

ตอบ  ก. ผู้อำนวยการกอง

 

23. กรมหนึ่งๆ ไม่มีผู้ดำรงตแหน่งเลขานุการกรม อธิบดีกรมจแงตั้งข้าราชการระดับใดเป็นผู้รัการาชการแทน

ก. หัวหน้ากอง

ข. ผู้ตรวจราชการ

ค. ชำนาญการพิเศษ

ง. รองอธิบดี

ตอบ  ก. หัวหน้ากอง

 

24. การรักษาราชการแทน ตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ใช้บังคับแก่ราชการในหน่วยงานใด

ก. ตำรวจ

ข. ทหาร

ค. ครู

ง. รองอธิบดี

ตอบ  ข. ทหาร

 

25. การสั่ง และการปฏิบัติราชการของกระทรวง กรม ต่อบุคคลในคณผู้แทน ให้เป็นไปตามระเบียบที่ใครกำหนด

ก. ปลัดกระทรวงกลาโหม

ข. ผบ.ทร

ค. ครม.

ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ

ตอบ  ค. ครม.

 

26. “ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้แทน หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองหัวหน้าคณะผู้แทนรักษาราชการแทน” ความใวรรคหนึ่งไม่ให้ใชบังคับแก่ผู้ใดที่ประจำในต่างประเทศ

ก. ข้าราชการฝ่ายทหาร

ข. ข้าราชการครู

ค. ข้าราชการตำรวจ

ง. ข้าราชการกงสุล

ตอบ ก. ข้าราชการฝ่ายทหาร

 

27.  ข้อใดคือการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค

ก. จังหวัด อำเภอ

ข. อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน

ค. ภูมิภาค จังหวัด อำเภอ

ง. จังหวัดอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน

ตอบ  ก. จังหวัด อำเภอ

 

28. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นกฏหมายใด

ก. พระราชบัญญัติ

ข. พระราชกฤษฏีกา

ค. กฏกระทรวง

ง. ประกาศ

ตอบ ก. พระราชบัญญัติ

 

29. หน่วยงานใดทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดนั้น

ก. คณะกรรมการจังหวัด

ข. คณะกรรมการจังหวัด

ค. คณะกรรมการปรึกษาจังหวัด

ง. คณะกรรมการบริหารพัฒนาจังหวัด

ตอบ  ก. คณะกรรมการจังหวัด

 

30. คณะกรรมการจังหวัดประกอบด้วยใครเป็นประธาน

ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข. ปลัดจังหวัด

ค. ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด

ง. อธิการบดี

ตอบ ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด

 

31. คณะกรรมการจังหวัดประกอบด้วยใครเป็นเลขา

ก. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด

ข. อัยการจังหวัด

ค. ผู้พิพากษาจังหวัด

ง. ปลัดจังหวัด

ตอบ ก. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด

 

32. ใครมีหน้าที่ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดในการบังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหาร

ก. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด

ข. เกษตรจังหวัด

ค. ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำจังหวัด

ง. ผู้บังคับการสถานีตำรวจจังหวัด

ตอบ  ก. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด

 

33. ผู้ว่าราชการจังหวัดรองผู้ว่าราชการจังหวัด สังกัดหน่วยงานใด

ก. กรมการแพทย์

ข. กระทรวงมหาดไทย

ค. สำนักงานศาลยุติธรรม

ง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ตอบ ข. กระทรวงมหาดไทย

 

34. ใครมีอำนาจบังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมในจังหวัดนั้น

ก. ปลัดจังหวัด

ข. พัฒนาการจังหวัด

ค. สำนักงานศาลยุติธรรม

ง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ตอบ  ข. พัฒนาการจังหวัด

 

35. ก.ธ.จ. มีชื่อเต็มว่าอย่างไร

ก. คณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัด

ข. คณะกรรมการธำรงรักษาความเป็นธรรมระดับจังหวัด

ค. คณะกรรมการธำรงรักษาธรรมาภิบาลจังหวัด

ง. คณะกรรมการศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัด

ตอบ  ก. คณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัด 

 

36. ใครเป็นประฐาน ก.ธ.จ.

ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด

ข. ผู้ตรวจการแผ่นดิน

ค. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

ง. ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำจังหวัด

ตอบ  ค. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

 

37. การยกเว้น จำกัด หรือตัดทอน อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดจะกระทำได้โดยวิธีการใด

ก. ออกกฏกระทรวง

ข. ตราพราชบัญญัติ

ค. ประกาศจังหวัด

ง. ตราพระราชกฤกษฏีกา

ตอบ ข. ตราพราชบัญญัติ

 

38.  ข้อใดคือการแบ่งส่วนราชการของจังหวัด

ก. สำนักงานจังหวัด ส่วนต่างไ ซึ่งกระทรวงทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น

ข. สำนักงานเลขานุการจังหวัด ศาล ส่วนต่างไ ซึ่งกระทรวงทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น

ค. สำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัด ศาล อัยการ ส่วนต่างๆ ซึ่งกระทรวงทบวง ได้ตั้งขึ้น

ง. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานจังหวัด ส่วนราชการต่างๆ

ตอบ ก. สำนักงานจังหวัด ส่วนต่างไ ซึ่งกระทรวงทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น

 

39. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอำเภอ ให้ตราเป็นกฏหมาย

ก. พระราชกฤษฏีกา

ข. กฏกระทรวง

ค. ประกาศ

ง. พระราชบัญญัติ

ตอบ  ก. พระราชกฤษฏีกา

 

40. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอำเภอ ให้ตราเป็นกฏหมาย

ก. พระราชกฤษฏีกา

ข. พระราชบัญญัติ

ค. กฏกระทรวง

ง. คำสั่ง

ตอบ  ก. พระราชกฤษฏีกา

ชอบบทความนี้หรือไม่? รับทราบข้อมูลโดย เข้าร่วมรับจดหมายข่าว!

ความเห็น

คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน
บทความล่าสุด
เม.ย. 28, 2023, 2:40 หลังเที่ยง Sugarmommy
เม.ย. 28, 2023, 2:37 หลังเที่ยง เบญจพิธพร
เม.ย. 27, 2023, 12:49 หลังเที่ยง ศลิล ตันวิสุทธิ์