สงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เป็นจริงหรือคิดไปเอง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่แค่วิตกจริตหรือแค่กังวลมากเกินไปใช่ไหมวันนี้เราจะมีแบบทดสอบหรืออาการให้คุณแยกว่าที่คุณเป็นอยู่เป็นโรคซึมเศร้าจริงๆหรือแค่คิดไปเอง
- รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นอยากอยู่เฉยๆ
- ชอบอยู่คนเดียวจากเดิมที่เคยชอบท่องเที่ยวหรือไปกับเพื่อนตอนนี้อยากอยู่คนเดียวอยู่กับสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่
- เหนื่อยง่ายและไม่ค่อยมีแรง อยากนอนอยู่ตลอดเวลา
- นอนไม่ค่อยหลับหรือหลับๆตื่นๆ
- มีความคิดวิ่งเข้ามาในหัวว่าอยากจะตายหรืออยากจะทำร้ายตัวเอง โดยความคิดนี้จะเกิดอย่างต่อเนื่องเข้ามาถี่ๆใน 1 วันมีไม่น้อยกว่า 2-3 ครั้งที่คิดแบบนั้น
- พูดช้าลงคิดช้าลงทำอะไรช้าลง
- ไม่มีสมาธิทำอะไรก็ผิดทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง
- จากเดิมที่เคยเป็นคนกินเก่งก็กลายเป็นคนที่เบื่ออาหาร หรือบางคนเป็นคนกินน้อยก็อาจจะมีการรับประทานอาหารที่มากกว่าเดิม
- รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าไร้ความสามารถ
- ไม่อยากคิดถึงอนาคตรู้สึกว่าจะปัจจุบันเป็นสิ่งที่แย่และคิดอยู่กับตัวเองเสมอว่าอยากย้อนอดีตได้
จากการคัดกรองทั้ง 10 ข้อดังกล่าวหากคุณมีอาการมากกว่า 5 ข้อขึ้นไปเราแนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์หรือพบแพทย์ที่เชียวชาญด้านการรักษาโรคซึมเศร้าเพื่อปรึกษาอาการของคุณ เพราะคุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้
แต่ในบางครั้งอาการดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดจากที่คุณเป็นโรคซึมเศร้าแต่เกิดจากคุณทานยาเหล่านี้
1. ยาลดความดันเลือด (เช่น alphamethyldopa, clonidine, propanolol)
2. ยารักษาโรคพาร์กินสัน (เช่น levodopa, amantadine)
3. ยากลุ่มสเตียรอยด์และฮอร์โมน (เช่น ยาคุม, เพรดนิโซโลน)
4. ยารักษามะเร็ง (vincristine, vinblastine)
5. ยาอื่นๆ เช่น ไซเมทิดีน, cyproheptadine
เพราะผลข้างเคียงของยาที่กล่าวมาอาจจะมีผลทำให้มีอาการคล้ายกับโรคซึมเศร้าอย่างไรก็ตามถ้าคุณมีอาการมากกว่า 5 ข้อที่ผมระบุไว้ให้คุณนำยาที่รับประทานอยู่เข้าไปพบจิตแพทย์ก็จะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องดีกว่ามานั่งคิดเองว่าเราเป็นหรือไม่เป็น
เข้าไปหาผู้เชียวชาญให้เขาบำบัดให้ถูกต้องน่าจะปลอดภัยและรวดเร็วกว่า
เป็นกำลังใจให้ทุกคนให้ผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้สวัสดี
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น