ท่ามกลางสถานการ์ณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ยอดติดเชื้อพุ่งถึง 20,000 กว่ารายต่อวัน ทำให้สถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด ไม่พอเพียงพอต่อจำนวนผู้ที่เชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้องรักษาตนเองที่บ้าน และต้องประเมินอาการตัวเอง วันนี้ผู้เขียนจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการโควิดลงปอด และวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นค่ะ
อาการโควิดลงปอดเป็นอย่างไร
1. เมื่อโควิดลงปอดจะทำให้มีไข้ขึ้นสูง เนื่องจากเชื้อโควิดได้ลงไปทำลายปอดจนทำให้ปอดเกิดอาการอักเสบ จึงทำให้มีไข้สูงมากๆค่ะ อุณหภูมิที่บ่งบอกว่ามีไข้สูงจะเริ่มตั้งแต่ 38 องศา ขึ้นไป
2. มีอาการไอ เพราะเมื่อเชื้อเข้าไปทำลายปอดแล้วจะทำให้ร่างกายของเรา มีน้ำหนองมากขึ้น ซึ่งน้ำหนองเหล่านี้ก็จะไปทำการรบกวนทางเดินหายใจ และเกิดอาการไอขึ้นนั่นเองค่ะ โดยจะมีอาการไอแบบแห้งๆ หรือมีเสมหะก็ได้
3. อาการหอบเหนื่อย เมื่อปอดของเราเกิดอาการอักเสบแล้วนะคะ มันจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของปอดเราลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้ปอดเติมออกซิเจนในร่างกายของเราได้ไม่เพียงพอ แล้วจะทำให้ออกซิเจนในเลือดของเราน้อยลง และเมื่อมีการอักเสบของปอดมากขึ้น มันจึงส่งผลทำให้การนำเข้าออกซิเจนจากภายนอกเข้าสู่ภายในร่างกายได้น้อยลงด้วยค่ะ จนทำให้เกิดอาการหอบเหนื่อยนั่นเอง
4. ออกซิเจนในเลือดลดลง โดยที่ท่านจะต้องมีเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วนะคะ เพื่อที่จะสามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือดของเราได้ค่ะ โดยค่าปกติจะอยู่ที่ 96-100% แต่ถ้ามีค่าน้อยกว่า 95% ให้รีบไปโรงพยาบาลค่ะ
หากมีอาการหอบเหนื่อยเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่ อาการไข้ อาการไอ ก็อาจจะเป็นการหอบเหนื่อยจากสาเหตุอื่นได้ค่ะ ที่ไม่ใช่เชื้อโควิดลงปอด แต่ถ้าหากใครที่มี 4 อาการเหล่านี้ร่วมด้วยกัน ก็แสดงว่าเริ่มมีอาการโควิดลงปอดแล้วค่ะ
หรือท่านสามารถสังเกตว่าเชื้อลงปอดหรือยังได้จากวิธีการเช็ค โดยมสามารถเช็คได้ง่ายๆ เพียงให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เดินไปมา ลุกยืน-นั่ง 3 ครั้ง หรือกลั้นหายใจ 10-15 วินาที ถ้ามีอาการเหนื่อยหอบ และวัดออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94 ลง ไป ให้สงสัยว่าเชื้อลงปอดแล้วค่ะ
วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นหากเชื้อลงปอดแล้ว
1. ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ โดยวิธีการนอนคว่ำ ให้ท่านกอดหมอนไว้ที่หน้าอก และนอนคว่ำ หรือถ้าหากท่านใดที่นอนคว่ำไม่ได้ ให้นอนตะแคงกึ่งนอนคว่ำเฉียงตัว ที่ 45 องศา และหญิงที่มีครรภ์ให้นอนตะแคงกึ่งคว่ำ เฉียงตัวไปทางด้านซ้าย ที่ 45 องศาค่ะ ซึ่งในระหว่างที่นอนอยู่ให้ขยับขาบ่อยๆ งอเข่าบ้าง เหยียดขาบ้างนะคะ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดค่ะ
2. การรับประทานอาหาร และดื่มน้ำ พยายามทานอาหารให้เพียงพอนะคะ หากท่านยังสามารถทานอาหารได้อยู่ แต่ถ้าเกิดทานอะไรไม่ได้ก็สามารถกินเกลือแร่แทนได้ค่ะ และการดื่มน้ำควรดื่มน้ำในปริมาณ 2-2.5 ลิตรต่อวันเท่านั้น เพราะถ้าดื่มมากกว่านี้มันจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายค่ะ
3. การทานยา ให้ทานตามอาการที่เป็นเท่านั้นนะคะ ถ้าเริ่มมีอาการไข้ให้กินยาพาราเซตามอลเท่านั้น ยาลดไข้ตัวอื่นห้ามกินเลยค่ะ ในส่วนของยาสมุนไพรฟ้าทลายโจรหรือกระชายขาว สามารถกินได้ค่ะ โดยฟ้าทลายโจร เมื่อกิน 5 วันแล้วต้องหยุด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อตับ โดยใครที่เป็นโรคตับ โรคไต โรคอ้วน และความดันโลหิตสูงห้ามกินเลยนะคะ
ส่วนใครที่มียาประจำอยู่แล้วให้กินตามปกติ เพื่อป้องกันการกำเริบของโรคที่เป็นอยู่ค่ะ และยาที่ควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์ ได้แก่
- ยาขับปัสสาวะ หากต้องทานยาชนิดนี้แล้วดื่มน้ำไม่ได้ควรงดไปก่อน
- ยาโรคความดันโลหิตสูง สามารถกินได้ค่ะแต่ต้องวัดค่าความดันบ่อยๆ หากกินแล้วความดันลดต่ำกว่า 90/60 ควรหยุดกินค่ะ
- ยาโรคเบาหวาน ผู้ป่วยจะต้องวัดค่าน้ำตาลสม่ำเสมอ หากวัดได้ค่าประมาณ 100 แล้วท่านทานอาหารไม่ค่อยได้ ควรงดอินซูลิน หรืองดยาประเภทนี้ไปก่อนนะคะ
4. การเข้าห้องน้ำ สำหรับการเข้าห้องน้ำหากท่านมีอาการเหนื่อยมาก แนะนำอย่าเข้าห้องน้ำนะคะ หรือถ้าจะเข้าจริงๆควรมีคนไปด้วยค่ะ เพราะเวลาที่เราขับถ่ายจะทำให้เหนื่อยมากกว่าเดิม ทำให้หมดสติได้และหัวใจหยุดเต้นค่ะ สิ่งที่ท่านจะต้องเตรียมก็คือ กระโถน หากไม่มีก็ใช้เป็นกระดาษหรือผ้ารองตามสะดวกเลยค่ะ และถ้าหากว่าท่านมีอาการท้องผูกให้ทานยาระบายอ่อนๆ นะคะ
หลังจากที่รู้วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้ว ท่านควรติดต่อประสานหาเตียงให้ได้โดยเร็วที่สุดนะคะ และที่สำคัญอย่าขาดการติดต่อกับญาติหรือคนรู้จักค่ะ เพื่อให้เขาช่วยประสานหาเตียงอีกแรงค่ะ และสุดท้ายขอให้ทุกท่านที่ติดเชื้อโควิด-19 ปลอดภัย และหายอย่างเร็วที่สุด เราหวังว่าทางภาครัฐจะไม่นิ่งนอนใจ และรีบหาวิธีแก้ไขเพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปอย่างรวดเร็ว
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น