บอกไปเมื่อEp.1 แล้วว่า "แมว" บ้านเรา ชื่อ จีจี้, มีมี่, เปอร์ปี้, เก๋ากี้, บู้บี้ และลูกอีกสองตัวที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ซึ่งตัวหนึ่งคงจะแยกบ้านไปเมื่อเติบโตขึ้น เพราะมีคนอยากเลี้ยงให้ แต่วันนี้ “ลูกอีกสองตัว” ยังคงอยู่กับเรา เพราะยังดูดนมแม่อยู่ ระยะหลัง ๆ เริ่มเห็น “บู้บี้” ผู้เป็นแม่เริ่มเขี่ย ๆ ให้ออกไปห่าง ๆ เริ่มทำท่ารำคาญบ้างแล้ว เพราะลูกเองก็เริ่มกินอาหารเม็ด เริ่มกินนมจากอกแม่น้อยลง เราก็เริ่มคิดเรื่องชื่อว่าจะเรียกอะไรดี ช่วงนี้ก็เปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ ยังไม่ตัดสินใจ จนกว่าจะมั่นใจว่าชอบชื่อไหนกันที่สุดก็จะใช้ชื่อนั้น แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เราเชื่อว่าสิ่งที่คนเลี้ยงแมวชอบทำก็คือถ่ายรูปพวกเขาเก็บไว้เวลาที่เขานอนหลับ ซึ่งเป็นเวลาที่สงบสุขสำหรับตัวผู้เลี้ยงเองด้วย โดยเฉพาะผู้เลี้ยงที่มีแมวหลายตัวอยู่ในบ้าน มันเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย สบายใจอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่อเห็นท่านอนแต่ละท่าที่เรียกได้ว่าลีลาไม่ซ้ำ
เมื่อเริ่มเลี้ยง "แมว" สิ่งแรก ๆ ที่เริ่มทำกันคือสังเกต “ท่านอน” แต่ละครั้งเราจะเห็นว่าแมวตัวเดียวกัน นอนไม่ซ้ำท่ากันในแต่ละวัน ในทางกลับกันแมวหลายตัวได้นอนซ้ำท่ากับแมวตัวอื่น ๆ (มนุษย์ก็เช่นกัน) ด้วยท่าทางการนอนแบบต่าง ๆ ของ “แมว” ก็จะถูกผู้ที่ศึกษาเรื่อง “แมว” จนเข้าใจภาษากายของ “แมว” วิเคราะห์กันออกมาให้รู้ว่าเพราะอะไร เราก็พลอยได้รู้ไปด้วย อย่างเช่น “เปอร์ปี้” กับท่านอนแผ่หลาไม่สนใจใคร เป็นท่าทางที่บ่งบอกให้รู้ว่ารู้สึกปลอดภัยอย่างที่สุด ขณะที่อยู่กับเรา เพราะส่วนท้องของ "แมว" เป็นส่วนที่อ่อนแอ ถ้าถูกโจมตีส่วนนี้เมื่อไหร่ก็เจ็บแบบจุก ๆ กันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่หวงแหน ถ้าไม่รู้สึกปลอดภัยจริงก็จะไม่แผ่ให้ดู เราเห็นท่านอนแบบนี้ก็พลอยสบายใจไปด้วย...มันดีอ่ะ เมื่อมีใครสักคน (สักตัว) อยู่กับเราแล้วเขารู้สึกว่าเขาปลอดภัย
“จีจี้”, “เก๋ากี้” กับ “ลูกอีกสองตัว” ในลีลาการนอนตะแคงเหยียดยาว ขายาวแค่ไหนก็ยืดไปแบบสุด ๆ ท่านี้ก็เป็นท่าสบาย ๆ ไม่ต้องระวังอะไรเช่นกัน หลับได้อย่างสบายใจสุด ๆ ในที่ ๆ ที่ปลอดภัย กับมนุษย์ที่ไว้วางใจได้อย่างเรา บ่อยครั้งที่เห็น “แมว” นอนหลับสนิท เราจะได้ยินเสียงมนุษย์รอบข้าง (รวมทั้งตัวเรา) ที่อดจะบ่นไม่ได้ว่า เกิดเป็น “แมว” ก็ดี นะ วัน ๆ แค่ “กิน” กับ “นอน” เวลาตื่น ถ้าไม่ไปตีกับใคร ไม่ไปเล่นกับใครก็เลียขนวนไป เมื่อมองย้อนกลับไปที่มุมแมว ก็ไม่รู้ว่ามีสักห้วงของความคิดไหมว่าอยากเกิดเป็นมนุษย์บ้างเหมือนกัน
“บู้บี้” กับท่านอนเป็นก้อน ๆ หรือที่เรียกกันว่าท่าสฟิงซ์ ถ้าหลับตาก็เป็นการพักผ่อนสั้น ๆ พร้อมที่จะลุกได้ทุกเมื่อ ท่านี้เราเห็นบ่อย ๆ ในช่วงหลังจากที่ “บู้บี้” ออกลูกมาใหม่ ๆ ขณะที่ลูกนอนหลับ หรือเล่นกันอยู่ เป็นการระวัง ไม่ให้แมวตัวไหนเข้ามาใกล้ แม้แต่มนุษย์อย่างเราก็เถอะ ยังขู่ฟ่อ ๆ โดยปกติแล้วแม่แมวจะหวงลูกมาก หากว่าใครเข้าไปกวนก็จะคาบลูกหนีไปอยู่ที่อื่น ถ้าอยู่ในบ้านก็ตามเจอกันนั่นแหละ แต่ถ้าเป็น "แมวจร" แมวที่เราให้อาหารอยู่นอกบ้าน ถ้าเรารู้ว่ามีลูกแล้วพยายามไปดูว่าลูกน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังแค่ไหน แม่แมวก็จะคาบลูกหนีหายไปเลยไม่ให้เราตามเจอ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคืออย่าไปรบกวนแมวแม่ลูกอ่อน เราแค่ให้อาหารในจุดที่เคยวางไว้เท่านั้นพอ เมื่อลูก ๆ เติบโต เราก็จะได้เห็นออกมาวิ่งเล่นเองนั่นแหละ
ท่าทางที่น้องจะนอน เป็นลีลาที่ไม่ซ้ำของเหล่า “แมว” หันไปมองแล้วก็ทำให้ยิ้มได้ เป็นรอยยิ้มที่เกิดขึ้นง่าย ๆ ของเราเองในแต่ละวัน
"แมวห้าตัว เดอะซีรีส์"
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น