ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างจากชั้น 2 ธรรมดาอย่างไร

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ต่างจากชั้น 2 ธรรมดาอย่างไร

เมื่อใช้รถไปหลายๆปีถ้าประกันชั้น 1 ก็มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากอายุรถที่มากขึ้นหรือบางบริษัทก็อาจจะไม่รับประกันในส่วนของประกันชั้นหนึ่งอีกต่อไปคนใช้รถส่วนใหญ่จึงมองมาที่ประกันชั้น 2 และเป็นที่สงสัยว่ามี 2 และ 2+ จึงอยากรู้ว่ามันแตกต่างอย่างไรในวันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง

ประกันชั้น 1 ถือว่าเป็นประกันภาคสมัครใจที่ให้การครอบคลุมคุ้มครองมากที่สุดเพราะว่าไม่ว่าจะชนด้วยกรณีใดชนโดยไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้ตัวอย่างเช่นชนเสาบ้านชนประตูรั้วบ้านเราก็สามารถเครมประกันชั้น 1 ได้ แต่ราคาของประกันชั้น 1 นั้นราคาค่อนข้างสูง หลายๆคนจึงอยากประหยัดจึงหันมามองประกันชั้น 2 เป็นอีกตัวเลือกแต่ไม่รู้ว่าประกันชั้น 2 แตกต่างกับชั้น 1 อย่างไร ซึ่งขอสรุปได้คร่าวๆคือ ประกันชั้น 2 จะไม่คุ้มครองกรณีการชนที่ไม่มีคู่กรณีพูดง่ายๆชนรั้วชนฟุตบาทเคลมไม่ได้นั่นเอง นอกจากนี้ในกรณีการชนยานพาหนะด้วยกันเองประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะรถคู่เท่านั้นกรณีไม่คุ้มครองรถเราตัวอย่างเช่นเราขับรถไปชนท้ายรถอีกคันหนึ่งประกันชั้น 2 จะซ่อมรถคันที่เราไปชนท้ายให้แต่รถเราต้องซ่อมเองเป็นต้น รวมถึงน้ำท่วมซึ่งประกันชั้น 2 จะไม่คุ้มครอง พอลดความคุ้มครองลงค่าเบี้ยประกันชั้น 2 เลยถูกลงอยู่เพียง 5 ถึง 8000 บาทเท่านั้น

จากที่บอกไปแล้วว่าประกันชั้น 2 จะไม่คุ้มครองการชนที่ไม่มีคู่กรณี และไม่คุ้มครองรถเรา ดังนั้นจึงมีประกัน 2 บวกขึ้นมาเพื่อเพิ่มเติมความคุ้มครองจากประกันชั้น 2 โดยประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองรถเราด้วยและบางบริษัทยังคุ้มครองน้ำท่วม เพิ่มเติมมาอีก ตัวอย่างเช่นถ้าเราขับรถไปชนท้ายรถแล้วเราทำประกันชั้น 2+ ไว้บริษัทประกันจะซ่อมให้ทั้งรถคู่กรณีและรถของเรา  แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องชนกับยานพาหนะตามนิยามของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น และที่สำคัญประกันชั้น 2+ ก็ไม่คุ้มครองการชนในกรณีไม่มีคู่กรณีเช่นเดียวกันกับประกันชั้น 2 ธรรมดา กล่าวคือถ้าเอารถไปชนฟุตบาทชนประตูรั้ว คุณต้องจ่ายค่าซ่อมรถเองประกันไม่สามารถจ่ายให้ได้เพราะอยู่นอกเหนือความคุ้มครอง

จะเห็นได้ว่าความคุ้มครองประกันชั้น 2 และ 2+ นั้นก็ยังถือว่าให้ความคุ้มครองที่สูงอยู่พอสมควรซึ่งเหมาะกับคนที่คิดว่าตัวเองขับรถอย่างระมัดระวังไม่ค่อยไปชนรั้วบ้านหรือฟุตบาท ซึ่งค่าประกันถูกลง ครึ่งต่อครึ่ง ถือเป็นอีกตัวเลือกในการทำประกันรถยนต์ที่อาจจะช่วยให้คุณซื้อประกันรถยนต์ได้อย่างเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน