เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงรู้จักผลไม้ชนิดนี้กันดีอยู่แล้ว อะโวคาโด ซึ่งสมัยนี้ ผู้คนก็มักจะนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร หรือแม้แต่ในครีมบำรุงและเครื่องสำอางบางยี่ห้อ ก็มีการนำอะโวคาโดไปเป็นส่วนผสมอีกด้วย
ก่อนอื่น เราก็ต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าอะโวคาโดตัวนี้ก่อนเลย “อะโวคาโด” เป็นผลไม้ที่มีเปลือกหนา มีสีที่เข้มจนออกสีดำ หรือบางคนก็มองเป็นสีม่วง เนื้อด้านในจะมีสีเขียว เนียนนุ่ม ส่วนรสชาติของอะโวคาโดจะออกมัน ๆ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โดยในผลของอะโวคาโดนั้น ประกอบไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด เกลือแร่ โดยวิตามินที่อยู่ในอะโวคาโด ก็จะมีวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา,วิตามิน C ที่ช่วยเรื่องการป้องกันหวัด และบำรุงผิวพรรณ, วิตามินอี ช่วยในการบำรุงผิวพรรณทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น, อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีส่วนช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
แต่นอกจากเจ้าอะโวคาโดจะอุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่แล้ว ยังมีพลังงานและโปรตีนสูงมากอีกด้วย เรียกได้ว่ากินลูกเดียวก็อิ่มยาว ๆ เลย แต่ถ้าหากทานมากไป ก็อาจจะส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ เพราะนอกจากจะมีพลังงานสูงแล้ว ไขมันก็ยังสูงตามอีกด้วย
คุณประโยชน์ของ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง นุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
- ช่วยต่อต้านริ้วรอยบนใบหน้า และช่วยชะลอวัย
- บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม ดูมีน้ำหนัก
- ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย
- ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ป้องกันและบรรเทาอาการหวัด
- มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยเรื่องการขับถ่าย
ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณค่าและสารอาหารของอะโวคาโดจะมีอยู่มาก แต่หากรับประทานมากเกินความพอดี ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน ดังนั้นจึงแนะนำว่าให้ทานอย่างพอดี วันละ 1 ลูกต่อวัน ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมแล้ว
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น