การฆ่าสาวพรหมจรรย์บริสุทธิ์นับร้อย ๆ คน คือยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุด เหยื่อที่ถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในความเชื่องมงายสุดหลอนเรื่องนี้ ต้องจบชีวิตลงอย่างไร้คุณค่า ความทารุณผิดมนุษย์นี้ คือเรื่องราวที่สยดสยองที่สุดที่ในประวัติศาสตร์โลกจะมีการจดบันทึกไว้....
Elizabeth Báthory
เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ (Countess Elizabeth Bathory) อีกหนึ่งสตรีสะท้านโลกที่สร้างเรื่องน่าขนลุกและบ้าคลั่งจนเกิดเป็นเรื่องราวเล่าขานนานนับสิบชั่วอายุคน เธอคนนี้เกิดและมีชีวิตอยู่ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1560 – 1614 เธอคือคนหนึ่งในตระกูลบาโธรี่ที่ถือว่าเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่ และยังสืบเชื้อสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กที่เก่าแก่ในยุโรป ตระกูลบาโธรี่เป็นตระกูลที่เก่าแก่ มีอำนาจล้นมือ และยังร่ำรวยมหาศาล เป็นที่น่าเกรงขามของประชาชนในยุคนั้นเอามาก ๆ
อลิซาเบธ เธอมีปัญหาทางจิตแบบขั้นรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ๆ อันเนื่องมาจากในสมัยนั้นมีความเชื่อเรื่องการแต่งงานกันเองในตระกูล เพื่อรักษาทรัพย์สมบัติและอำนาจให้คงสืบไป จนทำให้เด็กที่เกิดมาในตระกูลมีโอกาสเกิดการบ่งพร่องทางพันธุกรรมสูง ซึ่งหวยก็มาออกที่อลิซาเบธ เช่นกัน
ครั้นเมื่ออลิซาเบธ อายุได้ 13 ปี เธอได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทาสจนตั้งท้องขึ้น ความใฝ่ต่ำในครั้งนี้ ทำให้มารดาของเธอไม่พอใจและอับอายเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงตระกูลเป็นอย่างยิ่ง เมื่อความเรื่องตั้งท้องเริ่มแดงขึ้น อลิซาเบธ จึงถูกส่งตัวไปไว้อีกปราสาทหนึ่งที่ไกลจากสายตาผู้คน โดยใช้ข้ออ้างว่าเธอไม่ค่อยสบาย ต้องการพักในที่สงบ ๆ ไร้การรบกวนจากผู้อื่น เป็นถึงชนชั้นสูงเกียรติยศของวงตระกูลสำคัญกว่าเลือดเนื้อเชื้อไข ไม่มีใครรู้ว่าเด็กในท้องของ อลิซาเบธ เมื่อคลอดแล้วจะมีชะตากรรมเช่นไร จะถูกฆ่าตายหรือส่งไปไกลจากดินแดนนี้ ก็มิอาจหยั่งรู้ได้
เมื่อเวลาผ่านไปจน อลิซาเบธ เติบโตขึ้น เธอเริ่มมีอาการปวดหัวเรื้อรังแบบรุนแรง ไม่ว่าหมอที่ไหนก็รักษาไม่ขาดหายสักที อาการของเธอหนักขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับอาการทางจิตที่มีมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เธอเกิดคลุ้มคลั่งจนกัดเนื้อไหล่ของสาวใช้ที่เข้ามาพยาบาลอาการปวดหัวของเธอ จนเนื้อไหล่หลุด ตัวสาวใช้เองก็ร้องด้วยความเจ็บปวด อาการกรีดร้องของสาวใช้คนนี้ เมื่อ อลิซาเบธ ได้ยินเข้าก็หายจากอาการปวดหัวทันที นับว่าเป็นเรื่องแปลกและมหัศจรรย์มาก หลังจากเหตุการณ์นี้เมื่อ อลิซาเบธ มีอาการปวดหัวขึ้นมาอีก เธอจึงทรมานสาวใช้ เพื่อให้เสียงร้องอันเจ็บปวดของสาวใช้ เป็นยาระงับอาการปวดให้กับเธอ
Count Ferenc Nadasdy
เมื่อ อลิซาเบธ อายุได้ 15 ปี เธอได้แต่งงานกับท่านเคานต์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ (Count Ferenc Nadasdy) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องอายุต่างกันถึง 11 ปี ซึ่งท่านเคานต์ฟีเรนซ์ เองก็มีอาการวิกลจริตเช่นกัน ทั้งคู่ชอบการทรมานทาสด้วยวิธีสยดสยองต่าง ๆ มากมาย แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่กันครองรักกันอย่างยาวนานและมีลูกด้วยกันถึง 4 คนเลยทีเดียว
เวลาล่วงเลยไปนานกว่า 40 ปี ท่านเคานต์ฟีเรนซ์ ได้ถือแก่ความตายในอายุเพียง 51 ปี การตายของท่านเคานต์ฟีเรนซ์ในครั้งนี้ ทำให้ตัวของ อลิซาเบธ เองได้รับมรดกและทรัพย์สมบัติมากมาย รวมไปถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ไว้ในมือเธอเพียงผู้คนเดียว
ในวันหนึ่งขณะที่สาวใช้กำลังแปรงผมให้กับอลิซาเบธอยู่นั้น ความบรรลัยได้เข้ามาแทรกทันทีเมื่อสาวใช้คนนี้ได้เผลอออกแรงแปรงผมหนักมือไปหน่อย จนทำให้ผมหลุดติดหวีมาหลายเส้น วิญญาณแม่มดเข้าสิง อลิซาเบธ ทันที เธอหยิบเชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือทุบสาวใช้คนนี้ เท่านั้นไม่พอเธอได้นำแซ่หนังผูกปมโลหะ ฝาดใส่หนังสาวใช้แบบไม่ยั้ง รุนแรงถึงขนาดเนื้อของสาวใช้หลุดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลือดสาดกระเซ็นมาติดตามผิวหนังใบหน้าของ อลิซาเบธ เมื่อความโมหะยุติลง เธอกับพบว่าผิวหนังที่โดนเลือดสาดกระเด็นมานั้น มีความเต่งตึง ผิวนวลนุ่มขึ้น การค้นพบของอลิซาเบธในครั้งนี้ สร้างความคิดอันบรรเจิดให้กับเธอขึ้นมาทันที
ยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดคือ การฆ่าสาวพรหมจรรย์ เพื่อจะได้น้ำเลือดอันบริสุทธิ์แห้งชีวิต มาเยียวยาบันดาลความสวยที่เป็นอมตะ อาการทางจิตของ อลิซาเบธ รุนแรงมากขึ้น เธอไม่รอช้าสั่งให้หาเด็กสาวแรกรุ่นมารีดเลือด เชือดเนื้อ กรีดเลือดสด ๆ ลงในอ่างอาบน้ำให้เธออาบในทุก ๆ วัน เหยื่อของความโหดร้ายนี้มีเยอะกว่า 600 ชีวิตเลยทีเดียว
นานวันเข้าการทรมานเด็กสาวก็รุนแรงและยกระดับความเหี้ยมโหดเพิ่มขึ้น การทรมานมีด้วยกันหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น มีการใช้เหล็กร้อนเผาลำคอ ใช้เครื่องบีบหน้าอกทรมานให้มีเสียงกรีดร้องมากที่สุด การใช้วิธีทรมานโดยเครื่อง Iron Maiden เครื่องที่โด่งดังไปทุกสาระทิศทุกมุมโลก เพราะเครื่องนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับการทรมาน โดยเครื่องนี้ข้างในจะมีเหล็กแหลมจำนวนมาก เมื่อปิดประตูของเครื่องนี้ ด้ามเหล็กจะเสียบร่างกายเหยื่อคนนั้นแบบทรมานที่สุด และหากเด็กคนไหนที่ต้องการหลบหนี ก็ต้องถูกตัดเท้าทิ้งเท่านั้น
เรื่องราวที่น่าสยดสยองนี้จะปิดมิดแค่ไหนก็คงเก็บไว้ไม่อยู่ เมื่อข่าวลือน่าหูขึ้น ผู้คนต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้ อลิซาเบธ เองก็ถูกสอบสวนอย่างหนัก และท้ายที่สุดการตัดสินคดี ผู้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ถูกศาลตัดสินโทษประหาร เผาทั้งเป็น ในด้านของอลิซาเบธ ด้วยความที่เธอเป็นคนในตระกูลบาโธรี่ที่มีอำนาจและมีอิทธิพลมาก เธอจึงถูกตัดสินโทษเพียงแค่จำคุกในปราสาทของเธอไปตลอดชีวิต ในห้องขังอันมืดมิด ประตูถูกโบกปิดตาย มีเพียงแค่ช่องเล็ก ๆ ไว้หายใจเท่านั้น......
Cachtice Castle
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องเล่านี้เป็นการแต่งสีเติมแต่งมากน้อยแค่ไหน จะเป็นการใส่ร้ายกันเพื่อผลประโยชน์ หรือ เป็นเกมส์การเมืองในสมัยนั้น แต่ที่รู้ ๆ เรื่องราวของ อลิซาเบธ ได้ถูกหยิบยกมาเล่ากันอย่างแพร่หลาย ถึงขนาดมีการนำไปทำเป็นภาพยนตร์เลยทีเดียว ทุกวันนี้หลักฐานชิ้นสำคัญที่ยังคงปรากฏอยู่คือ ปราสาท Cachtice Castle ของอลิซาเบธ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาคาร์ลปาเชีย ในสโลวาเกีย สถานที่ที่มีประวัติน่าสะพรึง อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหายไป
น่ากลัวมากเลยครับ นำเสนอบทความดีๆแบบนี้ต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้
ขอบคุณค่ะ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น