มีนักเรียนและผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดที่ไม่มีท่าทีว่าจะจบสิ้นลงง่ายๆ ครม. จึงมีมติ ให้ช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองในรูปของ เงินเยียวยานักเรียน แต่มีผู้ปกครองหลายท่านที่ยังสับสนและไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องลงทะเบียนหรือไม่ ในฐานะที่ ผู้เขียนก็อยู่ในแวดวงการศึกษา เลยอยากสรุปให้ฟังเป็น 4 ประเด็นหลักที่ผู้ปกครองอาจจะมีความข้องใจ ดังนี้
1. ตามมาตรการ เงินเยียวยานักเรียน ลูกหลานของเราจะได้รับสิทธิ์อะไรบ้าง?
ความช่วยเหลือตามมาตรการ เงินเยียวยานักเรียน มี 2 ส่วนหลัก พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เงินช่วยค่าเทอม และค่าอินเทอร์เน็ต
เงินช่วยค่าเทอมนี้ ได้รับทุกคน ทุกชั้น ทุกระดับ และทุกสังกัด 2,000 บาท /คนคาดว่าทุกโรงเรียนน่าจะเร่งดำเนินการให้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับเงินเยียวยาส่วนนี้ ภายใน 31 สิงหาคม – ต้น กันยายน พ.ศ. 2564 และกระทรวงศึกษาธิการได้ออกหนังสือสั่งการที่ ศธ 04006/ว2487 แจ้งให้โรงเรียนดำเนินการสำรวจข้อมูลนักเรียนในสังกัด และจัดทำรายละเอียดบัญชีธนาคารของผู้ปกครอง หรือบัญชีธนาของนักเรียน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโอนเงินเยียวยานักเรียนเข้าบัญชี ดังนั้นหากช่วงนี้โรงเรียนขอเอกสาร สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนักเรียน ต้องรีบส่งให้ทางโรงเรียนเพื่อป้องกันความล่าช้าในการรับโอนเงินเยียวยานักเรียน
สำหรับค่าอินเทอร์เน็ตจะได้รับความช่วยเหลือจาก กสทช. สำหรับนักเรียนที่มีการจัดการเรียนรูปแบบออนไลน์ทุกระดับชั้นยกเว้นระดับมหาลัย โดยมีความช่วยเหลือที่ไม่ได้จ่ายเป็นตัวเงิน แต่ช่วยเหลือในรูปแบบของ แพกเก็ตเน็ตสำหรับมือถือ และส่วนลดอินเทอร์เน็ตบ้านหักจากค่าบิลบริการเดือนละ 79 บาท โดยให้ความช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ 15 สิงหาคม – 15 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และมีเงื่อนไขว่านักเรียน 1 คนเลือกรับสิทธิ์ได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น ส่วนการสมัครรับบริการสามารถติดต่อผ่านโรงเรียนได้ สำหรับรายละเอียดสามารถติดตามได้ทางลิงค์ ของ กสทช.
2. จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหลานเราได้รับเงินเยียวยานักเรียนหรือไม่
2.1 ตรวจสอบผ่านทางเวปไซต์ ในกรณีที่บุตรหลานของท่าน ได้ศึกษาอยู่ในโรงเรียนรัฐ สังกัด สพฐ. ท่านสามารถตรวจสอบสิทธิ์การรับเงินเยียวยานักเรียนได้ผ่านทางเวปไซต์ https://student.edudev.in.th/
สำหรับบุตรหลานที่เรียนในสถานศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สามารถเช็คสิทธิ์ผ่านทางเวปไซต์ https://opec.go.th และ Application สช. On Mobile ดาวโหลดได้ที่นี่
หรือสแกนผ่าน QR code
โดยสามารถติดต่อขอทราบรหัส G-Code ได้ที่โรงเรียนที่ตนศึกษาอยู่ แล้วสามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว
3. ผู้ปกครองต้องทำยังไงเพื่อให้ได้รับเงินเยียวยานักเรียน และต้องรับผ่านช่องทางใด
ผู้ปกครองเพียงแต่เช็คสิทธิ์ของนักเรียน หากปรากฏว่าได้รับสิทธิ์แล้ว จากนั้นก็แค่รอติดตามข่าวหรือประกาศจากทางโรงเรียนที่ลูกหลานของเราเรียนอยู่ ทำตามที่โรงเรียนแจ้ง โดยในช่วงนี้ โรงเรียนมักแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนส่งมอบเอกสารการรับเงินให้กับทางโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน สำเนาบัตรประจำตัวผู้ปกครอง และสำเนาหน้าปกสมุดบัญชีเงินฝาก รวมถึงแจ้งให้นักเรียนไปเข้ากรอกข้อมูล โดยส่วนนี้อาจจะส่งเอกสารให้ครูที่ปรึกษา แล้วครูที่ปรึกษากรอกให้ หรือ นักเรียนต้องเข้าไปกรอกเอง ขึ้นอยู่กับแนวปฏิบัติของแต่ละโรงเรียน ฉะนั้นผู้ปกครองต้องคอยติดตาม และกำกับดูแลบุตรหลานของเรา ให้ดำเนินการตามที่โรงเรียนแจ้งเพื่อป้องกันการตกหล่น และความล่าช้าในการรับสิทธิ์เงินเยียวยานักเรียน
4. ช่วงนี้โรงเรียนทำอะไรถึงไม่โอนเงินเยียวยาเสียที?
ตามที่แจ้งไปตามข้างต้น เข้าใจว่าช่วงนี้แต่ละโรงเรียนต้องเร่งดำเนินการสำรวจและจัดทำข้อมูลรายละเอียดจำนวนนักเรียนในสังกัด รวมถึงรายละเอียดบัญชีธนาคารตามคำสั่ง และเงินเยียวยาจะมีการโอนเป็นทอด ๆ คือ กระทรวงการคลัง จะโอนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และหลังจากนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะโอนต่อไปยังแต่ละโรงเรียน และโรงเรียนจะโอนไปยังบัญชีของนักเรียนหรือบัญชีผู้ปกครองที่แจ้งไว้ นอกจากนี้โรงเรียนยังดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลการใช้อินเตอร์เน็ตของนักเรียน เพื่อรองรับตามมาตรการการเยียวยาในส่วนความช่วยเหลือของ กสทช.ต่อไป
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น