สะโลเม นางน้อยผู้ตัดหัวนักบุญผู้ทรงอิทธิพล ( สตรีสะท้านโลก Ep1.)
เสน่ห์ของสตรีคือดาบที่แหลมคม สามารถฆ่าคนให้ตายโดยที่มือไม่ต้องเปื้อนเลือด ไม่ว่าจะผ่านยุคสมัยไปนานเท่าใดดูเหมือนว่าความเย้ายวนทางกามอารมณ์ของผู้หญิงนั้นจะสามารถสร้างหายนะและเป็นบทเรียนที่น่ากลัวกว่าการออกไปสู้บนสนามรบเสียอีก.....
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวชวนเสียวหัวนี้มาจาก พระนางเฮโรเดียส (Herodias) หลายคนคงอาจจะไม่คุ้นหูชื่อนี้สักเท่าไหร่ พระนางคนนี้เป็นชายาลูกคนแรกของพระเจ้าเฮรอด แอนติปาส์ ซึ่งปกครองนครปาเลสไตส์อยู่ในขณะนั้น วันหนึ่งลูกชายคนที่ 2 ของพระเจ้าเฮรอด แอนติปาส์ชื่อ พระเจ้าเฮรอดที่2 ได้เดินทางมาพบพระนางเฮโรเดียส พี่สะใภ้ของตนเข้า จึงเกิดอาการตกหลุมรักเข้าอย่างจัง จนนำไปสูเรื่องอื้อฉาวในวงตระกูลนั้นเอง
ในสมัยนั้นการที่กษัตริย์จะมีเมียหลายคนอาจไม่ใช่เรื่องแปลกนัก แต่การผิดผีเล่นชู้มันผิดต่อกฎของชาวยิวโบราณ ซึ่งพระนางเฮโรเดียสกับพระเจ้าเฮรอดที่2 เองก็ทำผิดกฎในข้อนี้ ทั้งคู่ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน จนถึงขึ้นพระนางเฮโรเดียสขอหย่าขาดกับพระสวามี(พี่ชายของพระเจ้าเฮรอดที่2)และมาแต่งงานกับน้องผัวเลยทีเดียว
ครั้นเมื่อการหย่าขาดกับพระสวามีคนเก่ามาตุนาหงันกับน้องผัว พระนางเฮโรเดียสก็ย้ายมาอยู่ที่วังมาร์เครัสกับผัวใหม่อย่างสบายใจ ในตอนนั้นเองพระนางได้นำลูกสาวแสนสวยวัยกำลังแตกเนื้อสาวมาอยู่ด้วยชื่อ สะโลเม (Salome) ซึ่งในบันทึกไม่ได้มีการกล่าวไว้ว่าเป็นลูกของพระนางเฮโรเดียสกับชายผู้ใด
การแต่งงานผิดจารีตและประเพณีเช่นนี้ สร้างความไม่พอใจกับเหล่านักบุญและผู้ที่คนมีอิทธิพลทางศาสนาเป็นอย่างมาก “นักบุญยอห์นแบปติสต์” (John the Baptist) เป็นนักบุญอีกคนหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์และตำหนิพระนางเฮโรเดียสอย่างไม่ไว้หน้า ทำให้สร้างความไม่พอใจและสร้างความอับอายให้พระนางเป็นอย่างมากจนนำไปสู่การล้างแค้นและกำจัดนักบุญผู้นี้
กลอุบายที่ใช้กำจัดนักบุญยอห์นแบปติสต์ ถูกจัดเตรียมไว้อย่างแยบยลและต้องไม่มีข้อครหา ทำให้มือพระนางต้องเปื้อนเลือด โดยพระนางเฮโรเดียสได้รับความร่วมมือจากสะโรเมลูกสาวของพระนางเอง ทั้ง 2 แม่ลูกจึงเฝ้ารอจนกระทั่งถึงวันที่เป็นโอกาสในการล้างแค้น
ในงานฉลองวันเกิดของพระเจ้าเฮรอดที่ 2 พระนางเฮโรเดียสออกกลอุบายให้นางสะโลเม แสดงโชว์ร่ายระบำถวายแด่กษัตริย์และขอรางวัลหากการแสดงโชว์เป็นที่น่าประทับใจ ทันทีที่สะโลเมปรากฏตัว ความงามที่แฝงอยู่ภายในใต้เรืองร่างของสตรีที่กำลังแตกเนื้อสาว ประกอบกับการแต่งองค์ทรงเครื่องที่ดูโดดเด่นสะดุดตา สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนในงานฉลองเป็นอย่างมาก
เมื่อการแสดงโชว์ร่ายระบำเริ่มขึ้น สะโลเมร่ายระบำเปลื้องผ้าอย่างช้า ๆ โดยใช้จริตมารยาหญิง ยักคิ้วหลิ่วตา เต้นยั่วอย่างมีศิลปะ ทำให้ผู้คนในงานถึงกับตกอยู่ในภวังค์ การร่ายระบำที่ดูแพรวพราว เปลื้องผ้าทีละชิ้นนี้ ทำให้พระเจ้าเฮรอดที่ 2 ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก
เมื่อการแสดงจบลงสะโรเมไม่รอช้าที่จะทูลขอรางวัลทันที พระเจ้าเฮรอดที่ 2 ที่กำลังอยู่ในอาการเคลิ้มในโชว์นี้กล่าวขึ้น “เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล ” “หม่อมฉัน ไคร่อยากได้หัวของนักบุญยอห์นแบปติสต์เพคะ ” สะโลเมกล่าว หลังจากที่นางพูดจบ ทุกคนในงานฉลองถึงกับอึ้งเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่นั้นก็หยุดลงทันทีและแทนที่ความเงียบสงัด ทุกคนในงานฉลองต่างตกใจไปตาม ๆ กันเช่นเดียวกับพระเจ้าเฮรอดที่ 2 ซึ่งในใจพระองค์ตอนนั้นคงรู้สึกแย่ไม่ใช่น้อย แต่กษัตริย์หากได้ลั่นวาจาไว้แล้วมิอาจคืนคำได้..........
หลังจากนั้นรางวัลที่ทั้ง 2 แม่ลูกคิดก็สมดั่งใจหวัง หัวของนักบุญยอห์นแบปติสต์ ถูกนำใส่ถาดมาถวายตามคำขอของ 2 แม่ลูก การตัดสินใจที่ผิดพลาดของพระเจ้าเฮรอดที่ 2 นั้นนำไปสู่หายนะที่พระองค์เองก็ไม่คาดถึงในเวลาต่อมา พระเจ้าเฮรอดที่ 2 สร้างความปวดร้าวให้ประชาชนในยุคนั้นเป็นอย่างมากกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น นานวันเข้าบัลลังก์ที่พระองค์ปกครองก็สั่นสะเทือน และถูกปลดออกจากตำแหน่งกษัตริย์ในที่สุด
แม้เรื่องราวเรื่องนี้อาจไม่ได้มีคนให้ความสำคัญและกล่าวถึงมากนัก แต่ผู้เขียนเชื่อว่าเป็นเรื่องราวที่สะท้อนอะไร ๆ ในหลายแง่มุมได้อย่างชัดเจน จนถึงตอนนี้เรื่องราวของพระนางเฮโรเดียสและสะโลเม กำลังถูกกาลเวลาค่อย ๆ พัดพา เลือนหายไปตามเวลา นี้อาจเป็นบทเรียนที่สอนให้รู้ว่า หากผู้ใดทำตัวให้น่าจดจำและสร้างคุณประโยชน์ตอนมีชีวิตอยู่ ตอนตายจากโลกนี้ไป วีรกรรมที่ดีมักจะถูกคนยกย่องและกล่าวถึงไปจนชั่วลูกชั่วหลาน แต่หากทำผิดแล้วไซร้ ความบรรลัยที่ก่อไว้จะไร้ซึ่งคนสรรเสริญ เชิดชู และไม่มีใครจดจำ.........
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น