การฑูตที่ดำเนินควบคู่การทหาร

สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนดำเนินระยะเวลามากว่า 1 เดือนครึ่งแล้ว ความสูญเสียทั้งในทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากมายมหาศาลและความสูญเสียในชีวิตที่ไม่อาจประเมิณมูลค่าได้เลย มีการสู้รบที่เกิดขึ้นตลอดเวลา แม้ว่าในภาวะสงคราม สนามรบยังเต็มไปด้วยกองเลือดและร่างของผู้ไร้วิญญาณ แต่ในอีกด้านหนึ่งซึ่งสำคัญมากสำหรับการหยุดยั้งสงครามในครั้งนี้คงจะหนีไม่พ้น "การฑูต" โลกใบใหญ่จะพาไปรู้จักกับผู้บริหารด้านการฑูตระดับสูงของยูเครน ผู้ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทางการฑูตและแนวนโยบายต่างประเทศมากที่สุดคนหนึ่ง เขาคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน นาย Dmytro Kuleba

ครอบครัวนักการฑูต

Dmytro Ivanovych Kuleba (ดีมีโทร อีวาโนวิช คูเลบา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนที่มีอายุน้อยที่สุด อดีตผู้แทนถาวรของยูเครนประจำรัฐสภายุโรประหว่างปี 2016 - 2019 เรียกได้ว่าเป็นนักการฑูตระดับสูงที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูเครน คูเลบาเกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1981 ในเมือง Sumy ทางตะวันออกของยูเครน มีคุณพ่อคือ นาย Ivan Dmytrovych Kuleba นักการฑูตอาวุโสอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนในปี 2003 - 2004 อดีตเอกอัครราชฑูตยูเครนประจำประเทศอียิปต์ สาธารณรัฐเช็ก คาซัคสถานและอาร์เมเนีย ส่วนคุณแม่คือ นาง Eugene Vladimirovna Kuleba ไม่ปรากฏประวัติส่วนตัว

คูเลบาสำเร็จการศึกษานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตในปี 2003 จากสถาบันการศึกษาและวิทยาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Taras Chevchenko แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติเคียฟในประเทศยูเครน คูเลบาสามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ 3 ภาษาคือภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศสและภาษารัสเซีย ด้านชีวิตส่วนตัวสมรสกับนาง Evgeniya Kuleba อดีตนักการฑูตยูเครนประจำออสเตรียและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 9 แห่งยูเครน (ชุดปัจจุบัน) มีบุตรด้วยกัน 2 คน

งานการเมืองที่ไม่พ้นงานการฑูต

สำหรับงานการเมือง คูเลบาเริ่มงานที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยเป็นผู้ช่วยหัวหน้าที่ปรึกษาด้านกฎหมายในปี 2003 หลังจากเรียนจบได้ไม่นาน ก่อนจะขยับขึ้นเป็นเลขานุการลำดับที่ 3 ของฝ่ายสนับสนุนทางกฎหมายประจำกระทรวงในปี 2005 จนกระทั่งปลายปี คูเลบาถูกย้ายไปทำงานในต่างประเทศครั้งแรกในตำแหน่งเลขานุการคนที่ 2 คณะผู้แทนถาวรยูเครนประจำองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จนถึงปี 2009 ก็ถูกย้ายกลับมาเป็นเลขานุการคนแรกในคณะที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่กรุงเคียฟและออกเป็นที่ปรึกษาด้านมนุษยธรรมให้นาย Kostyantyn Gryshchenko รองนายกรัฐมนตรียูเครนก่อนจะเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติศักดิ์ศรีในปี 2014 โค่นล้มประธานาธิบดีโปรรัสเซีย นาย Victor Yanukovych ซึ่งคูเลบาก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมการชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสไมดานในกรุงเคียฟอีกด้วย

หลังการปฏิวัติศักดิ์ศรีจบลง คูเลบาถูกเชิญเข้าไปร่วมงานในกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง โดยดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของยูเครนประจำสภายุโรประหว่างปี 2016 - 2019 ดูแลงานด้านมนุษยธรรมในคาบสมุทรไครเมียที่ถูกรัสเซียยึดครองตั้งแต่ปี 2014 มีส่วนร่วมในการผลักดันให้สหภาพยุโรปเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในยูเครน

เส้นทางสู่ผู้นำการต่างประเทศ

หลังการลาออกของอดีตนายกรัฐมนตรี Oleksiy Honcharu รัฐสภายูเครนได้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ (คนปัจจุบัน) ในเดือนมีนาคม 2020 ผลการลงมติได้นาย Denys Shmyhal ซึ่งประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ได้เสนอชื่อนายคูเลบาเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญยูเครน ส่งผลให้คูเลบาต้องเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูเครน ด้วยอายุเพียง 38 ปี

หน้าที่การงานที่ผ่านงานด้านการต่างประเทศเกือบทุกตำแหน่ง สร้างประสบการณ์และหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคูเลบาในวันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศที่ต้องดำเนินงานด้านการฑูตอย่างไม่หยุดหย่อนท่ามกลางภาวะสงคราม

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการหยุดยิงและการเจรจาอย่างตรงไปตรงมา ขอให้สงครามยุติลงในเร็ววันและขอให้ทั้งสองฝ่ายหาข้อสรุปที่ตกลงกันได้ในเวลาอันรวดเร็วนี้

- ถ้าชอบก็กดไลก์

- ถ้าใช่ก็กดแชร์

- ถ้าตรงใจก็กดติดตาม

เพื่อเป็นกำลังใจและแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งที่โลกใบใหญ่ต้องการจะสื่อออกไป

รู้จัก "คูเลบา" รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน

การฑูตที่ดำเนินควบคู่การทหาร

ครอบครัวนักการฑูต

งานการเมืองที่ไม่พ้นงานการฑูต

เส้นทางสู่ผู้นำการต่างประเทศ