เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเจอปัญหาเหล่านี้ รู้สึกว่าตนเองอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา แต่น้อยคนนักจะรู้ถึงสาเหตุของมัน บางคนอาจจะแค่คิดว่าเพราะตนเองนอนน้อยหรือเปล่า หรือบางคนนอนเต็มอิ่มแต่อ่อนเพลียก็มี ดังนั้นวันนี้ เราจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับสาเหตุส่วนใหญ่ ที่ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
1. รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
เมื่อร่างกายเราได้รับคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจะย่อยให้เป็นน้ำตาล จากนั้นก็นำไปเป็นพลังงานในชีวิตประจำวันของเรา และหากทานมากไป ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะเพิ่มขึ้น ตับอ่อนก็ต้องสร้างอินซูลิน จึงเป็นเหตุให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย
2. นอนไม่เพียงพอ หรือนอนเยอะเกินไป
แน่นอนว่าอะไรน้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี การพักผ่อนน้อยจะส่งผลให้ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนเพลีย โดยปกติผู้ใหญ่ควรนอนหลับเฉลี่ย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และหากนอนเกิน 10 ชม.ขึ้นไปก็จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียเช่นกัน
3. อาการแพ้อาหาร
โดยปกติจะมีอาการอื่น ๆ แทรกด้วย เช่น มีผื่นแดงขึ้น ปวดศรีษะ และมีอาการเหนื่อยล้าอย่างมาก ดังนั้นจึงแนะนำให้มีการสังเกตตัวเอง ว่าเป็นอาการแพ้อาหารหรือเปล่า
4. นอนผิดเวลา นอนไม่เป็นเวลา
เป็นสาเหตุให้ลดระดับพลังงานในร่างกาย ซึ่งส่งผลทำให้เรารู้สึกเพลียนั่นเอง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้เราตื่นกลางดึกด้วย หรือบางทีก็นอนไม่หลับ ดังนั้นจึงแนะนำให้นอนเป็นเวลา และไม่นอนดึกมากเกินไป
5. การใช้ชีวิตประจำวันแบบนิ่งอยู่กับที่ จำเจ
ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับวัยกลางคนหรือสูงอายุ เพราะส่วนใหญ่วัยนี้ก็ไม่ค่อยจะออกกำลังกายกันแล้วด้วย ถือเป็นสาเหตุให้ร่างกายเรารู้สึกอ่อนเพลีย และอาจเกิดเป็นอาการเรื้อรัง (chronic fatigue syndrome, CFS) โดยวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ แนะนำให้ออกกำลังกายบ้าง หรืออาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเดินแทนนั่งรถเมล์
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนเพื่อแสดงความคิดเห็น